ไฟแนนซ์โหด ยิงคนขับเสียชีวิตแล้ว 1 ยังสาหัส 1 ราย อ้างโดนทำร้าย

ไฟแนนซ์ยึดรถโหด ยิงคนขับรถส่งน้ำเสียชีวิตแล้ว 1 ยังสาหัส 1 ราย ก่อนที่จะขับรถฟอร์จูนเนอร์หลบหนี สุดท้ายย่องไปมอบตัวที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าตัวอ้างถูกกลุ่มพนักงานส่งน้ำแข็งและเจ้าของรถรุมทำร้าย คนที่เข้าไปยึดรถจึงต้องยิงเพื่อป้องกันตัว ยืนยันมีคลิปตอนเกิดเหตุ เตรียมให้ทนายเข้าแจ้งความเป็นผู้เสียหาย 

 

 

 

 

จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 16.45 น.วันที่ 26 มี.ค. ร.ต.อ.สมัย จำปาทอง รอง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี และเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองลพบุรี ไปตรวจสอบริมถนนด้านหลังสำนักงานประปาลพบุรี ซอยศรีสุริโยทัย 2 ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี  พบรถกระบะนิสสัน นาวาร่า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒภ6645 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ มีคราบเลือดติดอยู่บันไดประตูด้านคนขับ ทราบว่ามีผู้นำผู้บาดเจ็บ 2 รายถูกนำส่งรพซ. ส่วนในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม.ตกอยู่ริมฟุตปาท  2 ปลอก และพบคราบเลือดติดอยู่ที่กำแพง กับบนฟุตปาท

 

 

เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุได้ขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบถามนายนรากรณ์ ฉัตราเขตข์ หรือโอ้ คนขับรถกระบะส่งน้ำ คันที่จอดอยู่ทราบว่า ตนเองเป็นเจ้าของรถกระมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว ซึ่งดัดแปลงเป็นรถตู้หลังคาสูง มีนายโต้ง เป็นผู้ขับมาส่งน้ำ และมีผู้อ้างตัวว่าเป็นพนักงานไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นสุภาพสตรีขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มากับชายอีกคน จะทำการยึดรถคันดังกล่าว จึงได้มายังจุดที่เกิดเหตุ โดยขับรถกระบะนิสสัน นาวาร่า ทะเบียน 2 ฒภ 6654 กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายเอก ซึ่งเป็นคนงานส่งน้ำอยู่บริษัทเดียวกัน ซึ่งขับขี่จยย. มาจอดอยู่ในที่เกิดเหตุและลงไปพูดคุยกัน

 

 

นายนรากรณ์ กล่าวด้วยว่า ตนไม่ทราบว่า สุภาพสตรีที่อ้างตัวเป็นไฟแนนซ์ และจะมายึดรถเป็นใคร เพราะไม่มีบัตรมาแสดง และไม่มีหนังสือแจ้งยึดรถ มีเพียงแท็บเล็ตที่มีข้อความภาษาอังกฤษ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจ และหญิงสาวคนดังกล่าว ได้ขึ้นไปนั่งตรงด้านคนขับรถกระบะเพื่อจะขับรถออกไป ตนก็ไม่ยอม และได้ดึงผู้หญิงลงมาจากรถ เพราะรถต้องใช้ส่งน้ำ จึงไม่ยอมให้ไปและเกิดการยื้อแย่งกันขึ้น

 

 

ขณะนั้น ชายคนที่มากับผู้หญิงคนดังกล่าว ไปหยิบปืนที่รถฟอร์จูนเนอร์มา จึงวิ่งหนีไปหลบอยู่ในร้านคาร์แคร์ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ แล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด จนกระทั่ง นายโต้ง คนที่แจ้งให้ตนมาเคลียร์ วิ่งตามมาแต่ล้มนอนฟุบอยู่ในร้านคาร์แคร์ เพราะถูกยิง และต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิมาถึง หลังจากเกิดเหตุสักพักตนจึงออกมาจากร้านคาร์แคร์และพานายโต้งไปส่ง รพ. ต่อมาทราบว่า นายเอกก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และมีผู้นำส่ง รพ.โดยใช้รถกระบะที่ไฟแนนซ์จะมายึดเป็นพาหนะนำส่ง ส่วนคราบเลือดที่ติดอยู่ที่รถกระบะที่จอดอยู่ไม่ทราบว่าคราบเลือดมาจากไหน น่าจะมาจากคนเจ็บที่มาขึ้นรถตน ก่อนที่จะมีคนมาช่วยนำส่ง รพ.

 

“รถคันที่ไฟแนนซ์ จะมายึดเป็นรถที่ได้ซื้อต่อมาจากผู้ที่นำมาขายให้ทางอินเทอร์เน็ต เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนในราคา 1.7 แสนบาท แต่ยังไม่ได้โอน และหลังจากนั้น ก็ไม่สามารถติดต่อกับคนที่นำมาขายได้ และไม่รู้ว่า รถติดไฟแนนซ์ ที่ผ่านมาใช้ทำธุรกิจส่งน้ำเรื่อยมา จนกระทั่งมีการตามมายึดจนกลายเป็นเหตุดังกล่าว”นายนรากรณ์ กล่าว

 

สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.พระนารายณ์มหาราช ทราบชื่อนายพีระพัฒน์ คำภูเวีย หรือเอก อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 9 ต.ท่าแค อ.เมืองลพบุรี และชื่อนายธีรพันธ์ ทัตธนนท์นัทธ์ หรือโต้ง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 10 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี ซึ่งทั้ง 2 ราย ถูกยิงเข้ากลางหลัง กระสุนทะลุหน้าอก 

 

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจาก สภ.พระนครศรีอยุธยา ว่า มีผู้มาขอเข้ามอบตัว แจ้งว่าก่อเหตุยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บที่จ.ลพบุรี โดยชายดังกล่าวชื่อว่า นายสัญญา เสือน้อย อายุ 51 ปี บ้านอยู่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม.กระสุน 12 นัด ซึ่งตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ได้ไปรับจากจ.พระนครศรีอยุธยา มาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป 

 

ทางด้านเจ้าหน้าที่ รพ.พระนารายณ์มหาราช แจ้งว่า นายธีรพันธ์ ทัตธนนท์นัทธ์ หรือโต้ง อายุ 35 ปี ที่ถูกยิงด้านหลังทะลุหน้าอก ได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้ให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต ส่วนนายพีระพัฒน์ คำภูเวียง หรือเอก อาการยังสาหัส ไม่สามารถให้การได้

 

 

ล่าสุด เวลา 10.00 น. วันที่ 27 มี.ค. พนักงานสอบสวน ได้เชิญตัว น.ส.สุรีย์วรรณ กิจเฉลา อายุ 41 ปี พนักงานติดตามทวงหนี้ บริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้อยู่ในที่เกิดเหตุ และเป็นผู้ที่ทำการยึดรถ มาสอบปากคำ ซึ่ง น.ส.สุรีย์วรรณ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ตนเองและนายสัญญา ได้ถูกกลุ่มชายที่เป็นผู้ครอบครองรถทำร้ายก่อน ทำให้นายสัญญาต้องยิงเพื่อป้องกันตัว ซึ่งตนมีคลิปที่ถ่ายไว้ตลอด แต่ไม่สามารถให้ดูได้ โดยอ้างว่าต้องเก็บไว้เป็นหลักฐาน มอบให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการต่อไป และจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเจ้าของรถที่มารุมทำร้ายตนด้วย

 

อย่างไรก็ตามในวันนี้ เป็นวันหยุด ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ทำการสอบปากคำนายสัญญา เสือน้อย ผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด โดยนำตัวไปขังไว้ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา สภ.เมืองลพบุรี 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ/ผู้จัดการออนไลน์