ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ในฐานะนักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ระบุในเพจ “Virology and Cell Technology Lab – BIOTEC” ว่า ในขณะที่ทั้งโลกกำลังวุ่นอยู่กับการหาวิธีรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาที่มณฑลเจียงซู และอันฮุย ทางตะวันออกของประเทศจีน ได้มีการรายงานของโรคระบาดอีกชนิดหนึ่ง มีชื่อยาวๆ ว่า “Severe Fever with Thrombocytopenia Syndrome” หรือเรียกย่อๆ ว่า “SFTS”
สำหรับโรค SFTS เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Bunyavirus ซึ่งมีเห็บเป็นพาหะ ชื่อของไวรัสแบบเป็นทางการยังไม่มี จึงใช้ชื่อว่า SFTS virus (SFTSV) ไปก่อน โดยไวรัสในตระกูลนี้มีสารพันธุกรรมเป็น RNA สายลบ มีสามเส้นเป็นวงขนาดแตกต่างกันไป เส้นยาวสุด ขนาดยาว 6,368 เบส ทำหน้าที่สร้างเอนไซม์ที่ไวรัสใช้เพิ่มจำนวนสารพันธุกรรม เส้นที่สอง ยาว 3,378 เบส ทำหน้าที่สร้างโปรตีนบนเปลือกไวรัส ใช้เข้าสู่เซลล์ และเส้นที่สาม ยาว 1,744 เบส สร้างโปรตีนนิวคลีโอแคปซิด และโปรตีนอื่นๆ ที่ช่วยให้ไวรัสเพิ่มปริมาณได้
“คุณสมบัติของสารพันธุกรรมที่แยกเป็นเส้นๆ ดังกล่าว ปรากฏการณ์ที่ไวรัสชนิดนี้จะแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมกันในเซลล์เจ้าบ้าน ถ้าไวรัสมากกว่า 1 ชนิด ติดเข้าสู่เซลล์เดียวกันแล้วเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ จึงเกิดขึ้นได้ คล้ายๆ กับไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เกิดสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ไวรัสชนิดนี้จริงๆ แล้วไม่ใช่ไวรัสใหม่ นักวิจัยจีนได้พบไวรัสชนิดนี้มามากกว่า 10 ปีแล้ว เพียงแต่ว่าไวรัสดังกล่าวไม่ได้ก่อเกิดโรคในคนมากเท่านี้มาก่อน มีเพียงผู้ป่วย 1-2 คนเท่านั้น การเกิดระบาดในคนมากกว่า 60 คน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10% จึงเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นตระหนกสำหรับนักไวรัสหลายท่าน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับไวรัสชนิดนี้”
ในส่วนอาการผู้ป่วย SFTS จะมีไข้สูง อ่อนเพลีย เกล็ดเลือดและเม็ดเลือดขาวจะลดลง ผู้ป่วยที่อาการหนักจะพบการเลือดออกคล้ายไข้เลือดออก อวัยวะต่างๆ ทำงานผิดปกติ และอาการผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง ปัจจุบันไวรัสชนิดนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่มียาต้านไวรัส ชื่อว่า Ribavirin ที่มีข้อมูลว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาได้ เนื่องจากไวรัสชนิดนี้เชื่อว่าแพร่สู่คนโดยเห็บเป็นพาหะสำคัญ
นอกจากนี้ หลักฐานการแพร่กระจายจากคนสู่คนที่มีอยู่ในปัจจุบันบ่งชี้ว่า อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เชื่อว่าคงจะไม่แพร่อย่างรวดเร็วเหมือนโควิด-19 เพราะการแพร่ระบาดจะต้องสัมผัสเลือดที่ติดเชื้อ ไม่ใช่ทางเดินหายใจ แต่ด้วยอัตราการตายที่สูงแบบไม่ปกติ คงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ในจีนต่อไปว่าการแพร่ระบาดจะสูงขึ้นไปมากกว่านี้หรือไม่.
ขอบคุณข่าวจากไทยรัฐ