ตั้งแต่ที่ Miss Universe Thailand 2019 “ฟ้าใส – ปวีณสุดา ดรูอิ้น” เดินทางไปร่วมประกวดบนเวที Miss Universe 2019 ณ เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา กระทั่งผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายมาได้ เจ้าตัวก็ยังไม่ได้มีโอกาสได้ออกมาชี้แจงประเด็นดราม่ามากมาย ทั้งเรื่องชุด เรื่องที่ไม่เคารพผู้ใหญ่ จนไปถึงเรื่องที่ไม่มีวินัย ที่เกิดขึ้นระหว่างนั้น
ล่าสุด “ฟ้าใส ปวีณสุดา” ได้มาร่วมงานแถลงข่าวการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ ประจำปี 2020 ภายใต้แนวคิด “ตัวจริงแห่งจักรวาล” เจ้าตัวจึงได้ชี้แจงทุกประเด็นว่า
ไม่ค่อยได้เจอ?
“ก็เข้าใจค่ะ เพราะช่วงที่ผ่านมามีโควิด แต่ก็เสียดายในเรื่องของด้านการงานที่ต้องไปต่างประเทศ แต่เราก็ยังเดินหน้าทำกิจกรรมร่วมกับกองประกวดเหมือนเดิม อย่างช่วงที่ผ่านมาคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นห่วงเราเหมือนกัน เพราะว่าเราก็อยู่เมืองไทยคนเดียว ก็บอกให้ดูตัวเอง และก็บอกว่าถ้าไม่มีงานที่ไหน ก็ให้อยู่บ้าน และเราก็มีโอกาสได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือคนอื่นบ้าง ก็รู้สึกว่าดีที่เราสามารถช่วยเหลือเขาได้บ้าง”
แต่ที่ผ่านมาก็มีดราม่าแน่นมาก?
“จะบอกว่าเรื่องดราม่าหนูงงมาก เพราะตัวหนูเองก็หายไปจากโซเซี่ยลไประยะนึง แต่พอมีเรื่องนี้ขึ้นมา และพูดตรงๆ มันเยอะมากจนหนูเองก็ตามไม่ทัน ถามว่างงกับเรื่องไหน คือมันเยอะมาก”
อย่างเรื่องกับพี่โจ้ โซเฟสล่ะ?
“ในส่วนของเรื่องพี่โจ้หนูไม่ขอพูด หนูขอตอบในส่วนของหนูแล้วกันค่ะ คือมันมีดราม่ามาหลายวันมาก จนหนูเองตามไม่ทัน อย่างเรื่องชุดที่หลายคนเข้าใจผิดว่าทำไมไม่ใส่ชุดพี่โจ้ แต่วันประกวดก็ใส่ชุดพี่เขาขึ้นเวที หมายถึงชุดสีแดงที่ใส่นะ เพราะพี่โจ้เป็นคนดูแลเรื่องลุค”
หลังเกิดดราม่าเราได้เคลียร์กับพี่โจ้ไหม?
“ในเรื่องของพี่โจ้หนูไม่อยากพาดพิงถึงผู้ใหญ่ เพราะหนูเองก็เป็นเด็กด้วย และอีกอย่างเรื่องการสื่อสารด้วยภาษาไทย หนูอาจจะยังไม่แข็งแรงพอ ถ้าพูดอะไรไปอาจจะมีผิดพลาดไปบ้าง หรือสื่อสารเข้าใจผิดหรือเปล่า แต่ก็มีพี่ปุ้ยโทรมาถามฟ้าใสว่าเราเป็นยังไงบ้าง อย่างที่บอกว่าก่อนจะเกิดดราม่าเราไม่ได้อยู่ในโซเซียลมีเดียเลย แต่พอมีเรื่องก็โอ้โห้ใหญ่มาก”
พอมันมีเรื่องดราม่าเกิดขึ้น คนก็จะมองว่าเราไม่เคารพผู้ใหญ่?
“อันนี้ก็แปลกใจเหมือนกัน เพราะเวลาที่หนูเจอทุกคน เจอแฟนคลับ หรือคนที่อายุเท่ากัน หนูก็ยกมือไหว้ทุกคน แต่พอมันเกิดดราม่าขึ้น หนูก็รู้สึกงงเหมือกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น หนูไปทำอะไรให้เขาหรือเปล่า”
เราซีเรียสไหม? กับการที่เขาออกมาพูดถึงเราในด้านลบ อาทิเรื่องมาสาย
“อย่างที่หนูบอกว่ามันมีหลายเรื่องมาก อย่างเรื่องมาสาย และบอกว่าเป็นคนไม่มีวินัย หนูขอพูดว่าทั้งชีวิตของหนูมากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ หนูผ่านอะไรมาเยอะมาก กว่าจะเป็นนักเรียนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง กว่าจะประกวดทุกเวทีติดท็อปสามในประเทศไทย หนูว่าต้องเป็นคนที่มีวินัยเท่านั้นถึงจะมายืนจุดนี้ได้ (รวมไปถึงการที่เราไม่ควบคุมรูปร่าง?) อย่างที่บอกว่าทุกก้าวหนูตั้งใจมาก ทุกคนที่ติดตามหนูตั้งแต่ปี 2013 ทุกคนทราบว่าความฝันของหนูคือการประกวดมิสยูนิเวิร์ส หนูเชื่อว่าหนูต้องทำเต็มที่ และก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเราก็สามารถคว้าท็อปห้ามาได้”
มันคุ้มค่าไหมกับการที่ได้สวมมง ที่มาพร้อมกับดราม่า?
“หนูขอบอกว่าหนูก็งงกับดราม่าที่เกิดขึ้น แต่ก็ทำใจอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่ปี 2013 การที่เราจะเป็นนางงามเราก็ต้องมีดราม่าอยู่แล้ว”
สรุปว่าฟ้าใสได้เซ็นสัญญากับกองประกวดหรือยัง?
“ในเรื่องของสัญญาไม่ว่าจะประกวดกับเวทีไหน มันก็ต้องมีการเซ็นเอกสัญญาซึ่งเวทีนี้ก็เช่นกัน แต่หมดสัญญาแล้ว ถ้าเขาเรียกใช้เรา เราก็พร้อมตลอดค่ะ และจริงๆ สัญญาก็ครบหนึ่งปี แต่ก็ได้หมดลงไปแล้ว และหน้าที่สุดท้ายตอนนี้คืออำลาตำแหน่ง และตื่นเต้นมากๆ ลุ้นเหมือนกันว่า 10 ตค. นี้จะเป็นไงบ้าง เพราะกับ TPN ก็ขอบคุณที่ให้หนูได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 และไม่ว่าจะเป็นวันไหน วันข้างหน้า หนูก็จะย้อนกลับมา กับโอกาสที่เขาให้ไป ส่วนในเรื่องของรางวัลอันนี้อยากจะให้ไปถามผู้ใหญ่ดีกว่า”
หลังจากนี้วางแผนชีวิตยังไง? หลังสละมง
“ตอนนี้ก็อยากทำงานเบื้องหลังมากกว่า ส่วนงานเบื้องหน้าถ้ามีโอกาสก็จะทำอยู่นะ แต่ในอนาคตก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ว่าจะให้ทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นการบันเทิงในทุกๆ ด้าน”
“ฝากน้องๆ ทุกคนที่มีความฝัน ที่จะมาเป็นเดอะเน็ค มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนต่อไป ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัว ให้มาสมัครในแบบฉบับของตัวเอง และพกความมั่นใจมาด้วย สู้ๆ พี่เป็นกำลังใจให้ และถ้ามายืนตรงนี้อาจจะเจอดราม่าบ้าง อยากจะบอกน้องๆ ว่าถ้าเจอดราม่าในปีพี่ และปีก่อนๆ ก็แน่นอนว่าต้องเจอกับดราม่า ขึ้นอยู่กับว่าน้องต้องสตรองแค่ไหน พกความสตรองมาด้วยนะคะ”