Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba หรือชื่อไทยว่า ดาบพิฆาตอสูร ที่โด่งดังทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ เป็นแอนิเมชั่นที่มีคนพูดถึงเป็นจำนวนมาก แรกเริ่มเดิมทีดาบพิฆาตอสูร เริ่มต้นมาจากมังงะของ โคโยฮารุ โกโตะเกะ จำนวน 23 เล่มจบ ที่เขียนระหว่างปี 2559 และเพิ่งจบไปเมื่อกลางปี 2563 นี่เอง ส่วนแอนิเมชันก็มีออกมาแล้วหนึ่งซีซั่น จำนวน 26 ตอน และภาพยนตร์ ซึ่งดูแลงานสร้างโดยสตูดิโอ Ufotable และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นยุคไทโช คามาโดะ ทันจิโร่ เป็นเด็กหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนโยนและเฉลียวฉลาด ในฐานะลูกชายคนโตของครอบครัวคนเผาถ่าน เขาจึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวจากการเผาถ่านไปขายหลังจากพ่อของเขาเสียชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อมีอสูรบุกเข้ามาสังหารคนในครอบครัวของทันจิโร่ เหลือแต่เพียงเขาและน้องสาวที่ชื่อเนะซึโกะเท่านั้น เนะซึโกะที่รอดตายมาได้กลับกลายเป็นอสูรไป ทว่าก็น่าประหลาดใจที่เธอยังคงมีความคิดและการแสดงอารมณ์อย่างมนุษย์หลงเหลืออยู่ หลังจากที่ทันจิโร่ได้ต่อสู้กับโทมิโอะกะ กิยู นักล่าอสูรที่เดินทางผ่านมาและต้องการจะฆ่าเนะซึโกะที่กลายเป็นอสูรไปแล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะเป็นนักล่าอสูรตามคำชักชวนของกิยู เพื่อหาทางทำให้น้องสาวกลับมาเป็นมนุษย์ และชำระแค้นจากอสูรที่ฆ่าคนในครอบครัวของเขาให้จงได้
แอนิเมชัน
การแปลงภาพนิ่งๆ ให้เป็นภาพเคลื่อนไหวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีเรื่องของท่าทางการเคลื่อนที่ มิติของตัวละคร ภาพและดนตรี ซึ่งทั้งหมดต้องพึ่งพาพลังจินตนาการสูงมาก แต่ด้วยต้นฉบับของ โคโยฮารุ โกโตะเกะ ที่ทำไว้ดีมากๆ อยู่แล้ว เปรียบไปก็เหมือนกับ วัตถุดิบชั้นดี ซึ่งสตูดิโอ Ufotable ก็เป็นเชฟมือหนึ่ง ที่รู้ว่าจะดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาให้ดีที่สุดอย่างไร ผลที่ได้เลยเป็นแอนิเมชันคุณภาพสูงในทุกๆ ด้าน ที่โดดเด่นที่สุด ก็คงเป็นฉากแอ็กชันที่ทำออกมาได้สนุกมากๆ
ภาพยนตร์
Demon Slayer: Mugen Train หรือในชื่อไทยว่า ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ซึ่งก็เป็นฝีมือของ สตูดิโอ Ufotable เช่นเดียวกัน ได้กลายเป็นหนังแอนิเมชันก็ทำรายได้แซง Spirited Away ขึ้นแท่นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่น
ฉบับภาพยนตร์นี้ ไม่ใช่ภาคพิเศษหรือมีเนื้อเรื่องพิเศษแต่อย่างใด เพราะเรื่องราวเล่าต่อจากแอนิเมชันซีรีส์ ที่กลุ่มทันจิโร่ เนซึโกะ เซนอิตซึ และ อิโนสุเกะ ต้องไปทำภารกิจสืบหาข้อเท็จจริงของการหายตัวไปของประชาชนบนขบวนรถไฟ โดยมี “เสาหลักเพลิง” เรนโงคุ ร่วมทางไปด้วย ที่เบื้องหลังนั้นมี “จันทราอสูร” เข้ามาเกี่ยวข้อง
นั่นหมายความว่าแอนิเมชันเรื่องนี้ ไม่เหมาะกับคนที่ไม่เคยสัมผัสดาบพิฆาตอสูรมาก่อนไม่ว่าจะฉบับมังงะหรือแอนิเมชัน Ufotable รู้อยู่แล้วว่ากลุ่มคนดูคือใคร เลยไม่ต้องเสียเวลาในการอธิบายที่มาที่ไป และพาเรื่องราวไปสู่ไคลแมกซ์ทันที
อาจเพราะความมั่นใจในความโด่งดังและประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่ฉบับแอนิเมชันซีรีส์ ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้จึงเป็นการงานคุณภาพสูง จัดหนัก จัดเต็ม โชว์ศักยภาพการทำแอนิเมชันในยุคนี้ แอ็กชันดุดัน ดราม่าสะเทือนใจ เต็มไปด้วยแง่งามทั้งในด้านเนื้อเรื่องและคุณภาพงานสร้างของแอนิเมชัน เป็นความยอดเยี่ยมจนหาข้อตำหนิได้ยากจริงๆ
โดยสรุป ดาบพิฆาตอสูร ทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ ไม่ได้เป็นเพียงงานที่แฟนๆ ต่างยกย่องเท่านั้น แต่นี่ยังเป็นงานที่คนที่ชื่นชอบแอนิเมชันไม่ควรพลาดจริงๆ
ขอบคุณ ไทยรัฐ/Facebook: ตีตั๋วชนโรง