พิธีวิวาห์สุดอบอุ่นน่าประทับใจของหนุ่มเวียร์ และวิกกี้ และมีการเล่าถึงจุดเริ่มต้นเส้นทางรักของคนทั้งคู่ เวียร์กับวิกกี้เจอกันที่ใต้น้ำเมื่อ 4-5 ปีก่อน
เปิดเส้นทางรัก ของพระเอกหนุ่ม เวียร์ ศุกลวัฒน์ และ วิกกี้ พีมนต์ญา ให้ได้ฟังกันครั้งแรกในพรีเซ็นเตชั่นช่วงฉลองวิวาห์ของทั้งคู่ ที่มาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความรักให้ได้ฟังกัน โดยผู้จัดชื่อดัง ตุ๊กตา กันตนา ได้ถ่ายคลิปดังกล่าวมาให้ได้ชมกันในอินสตาแกรม tuktakantana ซึ่งเวียร์และวิกกี้เปิดใจเล่าให้ฟังถึงความรักว่า
ทั้งคู่ได้เจอกันที่ใต้น้ำเมื่อ 4-5 ปีก่อน วิกกี้มาช่วยเป็นสตันต์เพราะเขาเป็นนักดำน้ำ ในละครเรื่องสัมปทานหัวใจ ซึ่งตอนนั้นเวียร์ยังไม่อินเรื่องดำน้ำ แค่ไปขี่มอเตอร์ไซค์ออกทริป ละครก็ไม่ต้องถ่ายแล้ว หลังจากนั้นก็แยกย้ายไม่ได้เจอกันเลย
จนได้มาเจอกันอีก เวียร์กลับมาจากถ่ายหนังที่ต่างประเทศ นึกถึงเพราะถ่ายดำน้ำมาก็ชวนเพื่อนๆ ที่เรียนดำน้ำด้วยกัน ก็เลยโทรหาเผื่อเขาจะพาเราดำน้ำได้ก็เลย ได้ติดต่อเขาไปอีกครั้งหนึ่ง ถามว่าเชิงจีบมั้ย คือ ณ ตอนนั้นโสดแล้วไง แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรนะ
มันเริ่มต้นจากอายุเราใกล้เคียงกัน เป็นเพื่อนกันมา และเราก็ผ่านอะไรมาเยอะ เวลาพูดคุยกันมันก็พูดกันตรงๆ แต่เราห่างการจีบผู้หญิงมานาน บางทีก็ไม่รู้แม้อายุจะขนาดนี้ ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็เลยคุยเรื่องที่เราชอบเหมือนกัน ซึ่งเวียร์เล่าต่อว่า ตอนแรกวิกกี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวียร์เป็นใคร เพราะไม่ได้ดูโทรทัศน์ ซึ่งวิกกี้เล่าต่อว่า ครั้งแรกที่เห็นผู้ชายคนนี้สูงดีนะ
ก่อนที่วิกกี้จะเล่าให้ฟังว่าเวียร์เริ่มจีบด้วยการชวนไปไหนมาไหนบ่อยๆ ชวนบ่อยมาก จะมีกิจกรรมตลอด ชวนไปเดินป่ามั้ย ชวนตลอด แต่วิกกี้ไม่ได้ไปเพราะไม่ว่าง มีทั้งไม่ว่างทิพย์และไม่ว่างจริงๆ และครั้งแรกที่พ่อแม่เจอพี่เวียร์ แล้วแม่ก็มาสะกิดแล้วถามว่าใช่พี่เคอรี่รึเปล่า พอมารู้ว่าเขาเป็นใคร ก็รู้สึกว่าไม่ดีกว่า ด้วยความต่างของอาชีพ ส่วนเราเป็นนักธุรกิจ
ก่อนที่เวียร์จะเล่าว่า การที่เป็นนักแสดงและมีชื่อเสียงเขาก็คงกลัว แต่สิ่งที่เราทำได้ เราต้องทำให้เขาไว้ใจ ว่าเราอยากคุย อยากรู้จักด้วยจริงๆ ซึ่งวิกกี้ก็บอกว่าเขาก็ชวนหลายรอบมาก เขาไม่ละความพยายาม ก็เลยยอมไป ไปเพราะอยากรู้จักเขามากขึ้น เพราะเขาชวนไปในที่ที่เราอยากไป จนเขาเอาดำน้ำมาล่อ ซึ่งเป็นดำน้ำที่เราสนใจมาก
หลังจากที่เป็นเพื่อนกันมาเรื่อยๆ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เราก็คิดอะไรเหมือนกันหลายๆ อย่าง พอได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เรารู้สึกว่าเราสามารถพึ่งพาเขาได้ และเราก็อยู่ง่ายกินง่ายเหมือนกัน ไปไหนง่ายๆ ก็เลยไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
เวียร์เล่าต่อว่า มันค่อยซึมในสิ่งที่เราชอบเหมือนกัน ก็ปรับกันไปปรับกันมา พอคนมันเริ่มรู้สึกดีกันแล้ว ความต่างของกันก็เลยทำให้เริ่มรับได้ ค่อยๆ ปรับกันมาเรื่อยๆ จากเพื่อนมาเป็นแฟนกัน ก่อนที่วิกกี้จะบอกว่า คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเราก็ต้องการคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
เวียร์เล่าว่า เพราะอยู่คนเดียวมาทั้งชีวิต เติบโตมาด้วยตัวเอง จากเด็กต่างจังหวัดมาต่อสู้ด้วยตัวเอง แต่หลักๆ ก็คือคนเดียว เวลาเกิดอะไรขึ้นก็จะเอาตัวเองให้รอดก่อน ก็มีความเห็นแก่ตัว แต่วิกกี้เขามาเปลี่ยน เขาพูดตรงๆ เลยตอนแรกผมรู้สึกโกรธนะ เพราะผมก็เป็นคนแบบนี้ ก็อยู่มาแบบนี้ เราก็อยู่ได้ มีอีโก้ พอลองเปลี่ยน ลองมองให้มันกว้างขึ้น ใส่ใจมากขึ้น โดยเริ่มต้นที่เขา เขาทำให้เราเป็นคนดีขึ้น เลยรู้สึกว่าถ้าอยู่กับคนที่เขาทำให้เราเป็นคนดีขึ้นเขาต้องเป็นภรรยาที่ดี เป็นเพื่อนที่ดีได้ เพราะเขากล้าที่จะพูดในสิ่งที่ไม่ดีของเรา สุดท้ายไม่ว่าจะอะไรก็ตาม จะทะเลาะก็คุยกันให้จบ อย่าให้ข้ามคืน พรุ่งนี้ก็รันใหม่ เพราะต้องมีชีวิตกันไปอีกยาวนาน
และในวันที่ขอแต่งงาน วิกกี้เล่าให้ฟังว่า วันนั้นง่วงนอนมาก ตอนช่วงเช้าเขาบอกจะจัดงานปาร์ตี้กัน ก็อาสาช่วย แต่เขาบอกว่าไม่ต้อง ก็รู้สึกตะหงิดแล้ว และเขายังบอกว่าทุกคนใส่ชุดสีขาว ตอนนั้นรู้สึกว่าเขาจะขอแต่งงานรึเปล่า เพราะเขาเป็นคนเก็บความลับไม่เก่ง และไม่คิดว่าเขาจะเซอร์ไพรส์ เพราะเขาไม่ใช่คนเซอร์ไพรส์ เราก็เลยเตรียมชุดขาวเอาไว้สวยๆ รอจนถึง 4 ทุ่มครึ่งก็เริ่มง่วงเมื่อไหร่จะขอแต่งงาน
ก่อนที่ วิกกี้จะพูดความรู้สึกจากใจให้เวียร์ได้รู้ว่า ขอบคุณที่รักมากๆ ที่อยู่ด้วยกัน ขอให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ อยากให้ที่รักแข็งแรงๆ จะได้เป็นครอบครัวที่สุขภาพแข็งแรง ร่าเริงแฮปปี้ จะได้ไปเที่ยวกันเยอะๆ ด้วย และหนูก็จะดูแลที่รักให้ดีที่สุดอย่างที่เคยสัญญาไว้ค่ะ
ส่วน เวียร์ก็พูดความรู้สึกของตัวเองให้ภรรยาสาวฟังว่า วิกกี้เป็นคนที่มาทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น อาจจะไม่ได้รู้จักกันมาเป็นสิบปี แต่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ แค่นี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าวิกกี้รักผมมากแค่ไหน วิกกี้ดูแลผม ดูแลทุกคน วิกกี้เป็นคนเสียสละ รักครอบครัว เป็นคนจริงใจ เป็นคนเด็ดขาด แต่เป็นคนน่ารัก ใจเย็น แต่ตื่นสาย
อยากบอกวิกกี้ว่า รักวิกกี้นะ จะดูแลวิกกี้ให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะดูแลได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราต้องเข้มแข็ง จับมือกันฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่จะยากเกินไปกว่าเรา 2 คนจะจัดการได้ เราไม่มีทางแพ้ถ้าเรารักกัน