คนกรุงเทพฯ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อเจอฝนตก เพราะคุณอาจจะต้องติดแหง๊กอยู่บนท้องถนนเป็นเวลานาน หรือเจอปัญหาน้ำท่วมขังจนทำให้เครื่องยนต์ดับ หรือเกิดปัญหาจนต้องเครมประกัน ถ้าหากคุณทำประกันชั้นหนึ่งคงไม่ต้องกังวลซักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ประกันชั้นหนึ่งจะครอบคลุมกรณีน้ำท่วม แต่ถ้าเป็นประกันชั้นอื่นๆ อาจจะไม่ครอบคลุม ดังนั้นก่อนทำประกันควรตรวจสอบเงื่อนไขให้ดี ถ้าการประกันของคุณครอบคลุม ก็ดำเนินการเครมได้เลย
ขั้นตอนการเคลมประกัน
1. ถ่ายรูปรถขณะที่โดนน้ำท่วม พยายามถ่ายให้เห็นป้ายทะเบียนรถ ยืนยันว่าเป็นรถคันที่ต้องการเคลมประกันแน่ๆ
2. บันทึกภาพทุกความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายในรถ ระบุรายละเอียดให้ชัดเจนถึงวัน เวลา และสถานที่ที่เกิดเหตุ
3. แจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันภัย เพื่อนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ประกันตรวจสอบความเสียหาย
ความเสียหายรถเจอน้ำท่วม แบ่งได้เป็นสองประเภท
1. รถยนต์เจอการสูญเสียโดยสิ้นเชิง (total loss) หมายถึงตัวรถและเครื่องยนต์เสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้ ไม่คุ้มกับค่าซ่อมให้รถยนต์กลับมาใช้งานได้ปกติอีกครั้ง ในกรณีนี้ทางบริษัทประกันจะประเมินมูลค่าความเสียหายที่ 70% ของมูลค่ารถ
2. รถยนต์ได้รับความเสียหายบางส่วน (partial loss) ตัวรถและเครื่องยนต์เสียหายไม่มาก สามารถซ่อมได้ บริษัทจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมให้มาใช้งานตามปกติ
รถเจอน้ำท่วมไม่ได้เคลมประกันได้ทุกกรณี
ขึ้นอยู่กับเจตนา หากรับรู้ว่าทางข้างหน้ามีน้ำท่วมขังในระยะทางยาวเกินกว่าเครื่องยนต์จะรับได้ ตามเงื่อนไขของบริษัทประกันอาจไม่รับเคลมค่าเสียหายได้ เนื่องจากในเงื่อนไขกำหนดไว้ชัดเจนว่าจะจ่ายชดเชยเหตุน้ำท่วมรถในกรณีที่ไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้ใช้รถเท่านั้น เช่น หากผู้ใช้รถจอดรถไว้ตอนกลางคืนแล้วฝนตกหนักมาก ตื่นเช้ามารถเจอน้ำท่วมสูงแบบคาดไม่ถึง หรือหากกำลังขับรถอยู่แล้วน้ำท่วมสูงจนหลีกหนีไม่ทัน อันนี้เป็นเหตุผลที่ประกันจะพิจารณาจ่ายค่าเสียหาย.
ขอบคุณ ไทยรัฐ