หลายคนคงเคยได้ยินข่าวสัตว์ต่างๆ แอบไปทำรังอยู่ใต้ท้องรถ หากสัตว์ชนิดนั้นเป็นเพียงหนู แมว หรือแมลงต่าง ๆ ที่ไม่ได้ดุร้ายหรือมีอันตรายใด ๆ แต่ถ้าหากเป็นงูบอกเลยว่างานนี้ยาก และอันตราย แต่เราจะมีวิธีป้องกัน และวิธีจัดการได้อย่างไร ตามมาหาคำตอบกันได้เลย
วิธีป้องกันงูเข้ารถ
1. เลี่ยงการจอดรถในที่รกร้าง
ในบริเวณที่รกร้าง โดยเฉพาะป่าหรือที่ที่มีหญ้าขึ้นสูง มักจะมีสัตว์ต่าง ๆ รวมทั้งงูอาศัยอยู่ จึงไม่ควรจอดรถในสถานที่เหล่านี้ทิ้งไว้เป็นเวลานาน ๆ รวมทั้งที่จอดรถประจำ เช่น ในบ้านหรือหน้าบ้าน ก็ควรดูแลไม่ปล่อยให้รก สกปรก หรือมีหญ้าขึ้นเยอะด้วย
2. ปิดประตูและกระจกให้มิดชิด
การเปิดประตูหรือกระจกทิ้งไว้ขณะจอดรถ อาจทำให้สัตว์ต่าง ๆ รวมทั้งงูสามารถแอบเข้าไปอาศัยอยู่ในรถได้ เพราะฉะนั้นจึงควรเช็กทุกครั้งที่จอดรถว่าปิดมิดชิดหมดทุกบานแล้วหรือยัง
3. ใช้น้ำมันเครื่องเก่า
น้ำมันเครื่องเก่าที่ผ่านการใช้งานมาแล้วจะมีกลิ่นที่ช่วยป้องกันงูไม่ให้อยากเข้ามาใกล้ ๆ ได้ โดยให้นำผ้ามาชุบน้ำมันเครื่องเก่าแล้ววางไว้บริเวณใกล้ ๆ ที่จอดรถ ก็จะไม่มีงูเข้าไปยุ่งในบริเวณนั้น
4. กำมะถันหรือมะกรูดก็ใช้ได้
สำหรับใครที่รู้สึกว่ากลิ่นของน้ำมันเครื่องเก่านั้นแรงเกินไป อาจเลือกใช้ผงกำมะถันผสมน้ำแล้วราดบริเวณรอบ ๆ รถ หรือนำมะกรูดมาผ่าครึ่งแล้ววางไว้ที่รถก็ได้เช่นกัน เพราะงูไม่ชอบทั้งกลิ่นของกำมะถันและมะกรูด
5. สเปรย์ป้องกันงู
ปัจจุบันมีการผลิตสเปรย์ป้องกันงูออกมาให้ใช้เช่นกัน ซึ่งเมื่อฉีดแล้วจะมีกลิ่นที่งูไม่ชอบ สำหรับฉีดบริเวณรถหรือจุดอื่น ๆ ของบ้านที่ไม่อยากให้งูเข้าใกล้ได้
6. สัตว์เลี้ยงช่วยไล่งู
การมีสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขหรือแมวอยู่ในบ้านก็สามารถช่วยให้เราปลอดภัยจากงูได้ เนื่องจากจมูกของสัตว์มักจะไวต่อสิ่งอันตรายต่าง ๆ และเมื่อพวกมันพบงูหรือสัตว์อันตรายอื่น ๆ ก็มักจะเห่าหรือส่งเสียงไล่ ทำให้งูหนีไป รวมทั้งทำให้เรารู้ตัวได้ทันทีอีกด้วย
งูเข้ารถ ควรทำอย่างไร ?
หากพบว่ามีงูเข้าไปอยู่ในรถ และเป็นงูที่ตัวใหญ่ มีพิษ หรือไม่สามารถรับมือด้วยตัวเองได้ ให้ออกห่าง อย่าเข้าใกล้ แล้วรีบติดต่อหน่วยงานดังต่อไปนี้เพื่อขอความช่วยเหลือ
- กู้ภัย 199
- สายด่วนงูเข้าบ้าน 1677
- จส.100 โทร. 1137
- สวพ.91 โทร. 1644
ขอบคุณ sanook.com/autojosh.com, snakesforpets.com