มหัศจรรย์ “ตัวเหี้ย” สัตว์ศักดิ์สิทธิ์และเมนูเด็ดเพิ่มพลัง Sex

ถ้าตั้งคำถามว่ามนุษย์ต่างจากสัตว์สายพันธุ์กิ้งก่ายักษ์อย่าง “เหี้ย” ตรงไหน ตอบแบบง่ายๆไม่ต้องคิดมาก ก็คงต้องบอกว่า มนุษย์เป็นสัตว์เลือดอุ่น แต่ “เหี้ย” เป็นสัตว์เลือดเย็น

ใครที่เคยดูหนังไซไฟอาจเคยเห็นมนุษย์กลายพันธุ์ แปลงร่างได้ กำจัดเชื้อโรคออกจากตัวและสร้างภูมิคุ้มกันได้เอง แต่เชื่อหรือไม่ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในโลกใบนี้ยังมีสัตว์ธรรมดาสายพันธุ์หนึ่งที่มีความมหัศจรรย์ของร่างกายแบบมนุษย์ในหนังไซไฟเหมือนกัน และ ไม่ได้อยู่ไกลตัวเราเลย

สัตว์ที่ว่านั้นก็คือ “เหี้ย” ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Vranus salvator หนึ่งในสายพันธุ์ กิ้งก่า Asian Water Monitor และเป็นหนึ่งในสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดของโลก 

ในทางวิทยาศาสตร์ เหี้ยเป็นสัตว์เลือดเย็น และเป็นสัตว์ที่มีความพิเศษคือ สามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆได้เองโดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาชนิดใดๆช่วย ผลการศึกษาฉบับหนึ่งในต่างประเทศ ระบุว่า เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายของเหี้ย ระบบภายในร่างกายของร่างกายจะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้เลยโดยไม่ต้องอาศัยแอนติบอดีเฉพาะมากำจัด เหมือนมีตัวรับหรือ recepter ที่สามารถรู้ได้ว่า เซลล์ที่เข้าสู่ร่างกายนั้นเป็นของแปลกปลอมและระบบของร่างกายก็จะจัดการทันที จึงไม่น่าแปลกใจที่แบคทีเรียหลายชนิดถูกฆ่าทิ้งในระบบเลือดของเหี้ย และเรื่องนี้ก็ทำให้ต่างชาติสนใจที่จะนำเลือด “เหี้ย” ไปวิจัย เพื่อพัฒนาเป็นยา โดยเฉพาะยาสำหรับผู้ป่วยที่มีการดื้อยา 

รศ.น.สพ.ดร.จิตรกมล ธนศักดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เคยให้สัมภาษณ์ว่า ปกติเหี้ยจะไม่ป่วย เพราะเขากินของสกปรกแบบสุดยอด เชื้อโรคเข้าหาตัวได้ทั้งวันก็ไม่เคยเป็นอะไร แต่ถ้าเขาป่วย นั่นแสดงว่า ระบบในร่างกายเขาไม่สามารถเอาชนะเชื้อโรคได้

“ผมคิดว่าถ้าเขาป่วยก็เพราะคนนั่นละครับ ป่วยเพราะอาหารที่คนให้ จริงๆเราควรปล่อยให้เขาอยู่ตามธรรมชาติ เพราะธรรมชาติจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้เขาเอง ซึ่งปกติเขาก็แข็งแรงที่สุดและมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงที่สุดอยู่แล้ว” คุณหมอจิตรกมล บอกและว่า เหี้ยเป็นสัตว์เลือดเย็น เวลาเขาไม่สบายเขาไม่สามารถปรับอุณหภูมิร่างกายของเขาให้อุ่นเพื่อรักษาตัวเองได้เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ต้องอาศัยความร้อนจากภายนอกเพื่อช่วยให้ตัวเขาสามารถรักษาตัวเองได้ นอกจากนี้ เหี้ยยังไม่มีต่อมน้ำเหลืองเหมือนในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่ระบบน้ำเหลืองจะอยู่กันเป็นร่างแหที่โยงใยไปทั่วร่างกาย เรื่องของระบบเม็ดเลือดระหว่างเหี้ยกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมก็ยังต่างกันอีก โดยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะมีเม็ดเลือด 5 ชนิด ส่วนในเหี้ยจะมีเม็ดเลือด 6 ชนิด ซึ่งเพราะระบบน้ำเหลืองและระบบเลือดที่แตกต่างนี้เอง ที่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเหี้ยไม่เหมือนสัตว์ตัวใด

ความน่าอัศจรรย์อีกอย่างคือ มีการค้นพบพยาธิเม็ดเลือดในเลือดเหี้ยเกือบครึ่ง ในการตรวจนับเม็ดเลือดซึ่งถ้าเป็นในสัตว์ปกติพยาธิเม็ดเลือดนี้จะทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย เลือดจางจนทำให้ป่วยอ่อนแอ และเลวร้ายสุดคือตาย แต่ในเหี้ยคือพยาธิเม็ดเลือดทำลายเม็ดเลือดแดงไปเท่าไหร่ ระบบภูมิคุ้มกันก็จะสร้างเม็ดเลือดแดงขึ้นมาทดแทนตลอดเท่านั้น

ในหลายประเทศเชื่อว่าการกินเหี้ยมีประโยชน์มาก ตั้งแต่ปี 2562 ถึง ธ.ค.2563 ทีมนักวิจัยชาวอินโดนีเซียจากหลายมหาวิทยาลัย รวมถึงสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งอินโดนีเซีย ได้ตระเวนไปยังหลายเมืองของอินโดนีเซีย เช่น เมืองคาราวัง เมืองซิบินอง และเมืองเซียบอง ในจังหวัดชวาตะวันตก เพื่อพูดคุยถึงพฤติกรรม ความเห็น และข้อเท็จจริงทางโภชนาการของการกินเนื้อ Varanus salvator หรือตัวเงินตัวทอง โดยพบว่าประชาชนในจังหวัดชวาตะวันตกนิยมกินเนื้อตัวเงินตัวทองเป็นจำนวนกว่า 50,000 ตัวต่อปี ไม่เพียงเท่านั้น ทีมวิจัยยังพบว่าวัฒนธรรมการกินเนื้อตัวเงินตัวทองแพร่หลายไปในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะด้วยความเชื่อว่าเป็นอาหารที่มีสรรพคุณทางยา หรือเพื่อรับมือกับวิกฤติขาดแคลนอาหาร 

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนเนื้อหา : thairath


ขอบคุณผู้สนับสนุนข้อมูลดีๆ จาก ALLSUREWIN

สนใจเข้ามาผ่อนคลายกับหลากหลายเกมส์มากมายให้เลือกเล่น ได้ที่ @ALLSUREWIN

เล่นที่นี่มีแต่วิน ต้องวินชัวร์ แอด @winsure

ใครปิด เราไม่ปิด สนใจเสี่ยงดวงติดต่อเราได้ที่ไลน์ @asw888 ตลอด 24 ชม.


เกมดี เกมมัน มากกว่า 1,000 เกม @gamewin


แค่คิดถึงเรา เงินก็อยู่ในบัญชี @asw168


เล่นได้ จ่ายชัวร์ @RT88