สรุปเหตุผลที่ “เลวานดอฟสกี้” สมควรได้”บัลลงดอร์” ปีนี้!

ยังคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกทีม “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิมในฤดูกาลที่เพิ่งจบไปนั้นจะสามารถเบียดแซงคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และลิโอเนล เมสซี ขึ้นมาคว้ารางวัลบัลลงดอร์ประจำปี 2020 และกลายเป็นนักเตะจากบุนเดสลีกาคนแรกที่คว้ารางวัลนี้มาครองในรอบ 2 ทศวรรษได้หรือไม่ งานนี้ฮันซี่ ฟลิค กุนซือทีมเสือใต้ออกมาหนุนหลังลูกทีมคนเก่งอย่างเต็มที่

“ถ้าคุณมองถึงผลงานที่เขาทำ คุณจะต้องคิดหนักแน่นอน” ฟลิคกล่าวถึงโอกาสในการคว้ารางวัลบัลลงดอร์ของหัวหอกชาวโปแลนด์ “ทำไมจะเป็นนักเตะจากบุนเดสลีกาไม่ได้ล่ะ?”

หนึ่งในข้อกำหนดของรางวัลนี้ก็คือผลงานของนักเตะต้องควบคู่ไปกับผลงานของสโมสรต้นสังกัด ซึ่งหากพิจารณาผลงานของเลวานดอฟสกี้และทีมบาเยิร์น มิวนิค แล้วล่ะก็ถือว่านาทีนี้คงหาใครมาเทียบได้ยาก

เลวานเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในทำเนียบนักเตะที่ไม่ใช่ชาวเยอรมัน นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในบุนเดสลีกาเมื่อปี 2010 ปีนี้เป็นปีที่หัวหอกชาวโปแลนด์ฟอร์มพีคสุดๆแล้ว ฤดูกาลล่าสุดคือซีซั่นที่เขายิงประตูได้สูงสุดในชีวิตค้าแข้งรวม 34 ประตู คว้ารางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกาเป็นสมัยที่ 5 ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 8 ติดต่อกันได้สำเร็จ แถมยังยิง 2 ประตูในเกมนัดชิงเดเอฟเบ โพคาล พาทีมเสือใต้คว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปหมาดๆ

เลวานดอฟสกี้ยิงประตูในศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกไปแล้วถึง 11 ลูก เป็นสถิติสูงสุดของฤดูกาลนี้ รวมทุกรายการเลวานยิงไปแล้วถึง 51 ประตูจาก 43 เกมที่ได้ลงเล่น ไม่มีนักเตะคนไหนในลีกท็อป 5 ของยุโรปทำผลงานได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว

ในศึกแชมเปียนส์ลีกต้องถือว่าบาเยิร์นก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปในรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว หลังพวกเขาบุกเอาชนะเชลซีคาบ้านได้ในเลกแรกถึง 3-0 หากสุดท้ายแล้วบาเยิร์นสามารถคว้าแชมป์ถ้วย “บิ๊กเอียร์ส” ได้สำเร็จก็จะกลายเป็นทริปเปิ้ลแชมป์หนที่สองของพวกเขา ยิ่งถ้าเลวานดอฟสกี้เป็นผู้ยิงประตูพาทีมคว้าแชมป์ได้ด้วยล่ะก็ เสียงเรียกร้องให้แข้งชาวโปแลนด์คนนี้คว้ารางวัลบัลลงดอร์ให้ได้เสียทีคงดังกระหึ่มถึงขีดสุดไปเลย

เป็นเวลาถึง 24 ปีมาแล้วที่นักเตะจากบุนเดสลีกาคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ได้เป็นหนล่าสุด ซึ่งครั้งนั้น มัทธีอัส ซามเมอร์ ตำนานนักเตะทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้รับคะแนนโหวตจากนักข่าวทั่วโลกให้คว้าบัลลงดอร์ประจำปี 1996

โอลิเวอร์ คาห์น นายด่านทีม “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เคยทำได้เพียงอันดับที่สามในปี 2001 และ 2002 เช่นเดียวกับฟรองค์ ริเบรี ที่คว้าอันดับสาม หลังพาทีมเสือใต้คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2012/13 อีกคนที่เคยได้อันดับสามเหมือนกันก็คือมานูเอล นอยเออร์ ที่พาทีมชาติเยอรมนีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ได้ที่บราซิล

ในอดีตเคยมีผู้เล่นจากทีมบาเยิร์นที่เคยคว้ารางวัลบัลลงดอร์ได้เพียง 3 คนเท่านั้น ประเดิมด้วยแกร์ด มึลเลอร์ ในปี 1970 ตามมาด้วยฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ ที่ได้ถึงสองครั้งในปี 1972 และ 1976 เช่นเดียวกับคาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิเก้อ ซีอีโอคนปัจจุบันของบาเยิร์นที่คว้ารางวัลบัลลงดอร์สองสมัยติดต่อกันในปี 1980 และ 1981

ก่อนหน้านี้เลวานดอฟสกี้ก็เคยติดโผลุ้นรางวัลบัลลงดอร์ในปี 2015 ซึ่งถูกโหวตให้อยู่ในอันดับสี่ ต่อจากเมสซี, โรนัลโด้ และเนย์มาร์ นับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา รางวัลนี้ตกเป็นของโรนัลโด้หรือไม่ก็เมสซีสลับกันอยู่สองคน ซึ่งเมื่อดูผลงานแล้วก็ไม่ได้ดีกว่าผลงานของเลวานในฤดูกาลนี้เลย

“สิ่งที่ผมพยายามทำอยู่ก็คือการโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองให้ได้เสมอ คว้าถ้วยรางวัลให้ได้ และยิงประตูให้มากขึ้น แต่สิ่งนั้นมันก็มาพร้อมกับถ้วยรางวัลที่มากขึ้น นั่นแหละคือสิ่งสำคัญที่สุด ผมไม่เคยคิดถึงบัลลงดอร์เลยด้วยซ้ำทั้งที่ผมเชื่อว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในชีวิตของเรา” เลวานดอฟสกี้กล่าว

“ผมเชื่อว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพของผมกำลังจะมาถึงในไม่ช้า ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่สัญญาฉบับสุดท้ายที่จะได้รับในอาชีพค้าแข้งแน่ๆ ผมอยากลงเล่นไปนานๆ และรักษาร่างกายให้ดี ผมมีเวลาเหลือเฟือที่จะคิดถึงอนาคต แต่ผมก็รู้สึกดีมากๆ”

“ผมกำลังจะอายุ 32 ปีในเดือนสิงหาคมนี้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมจะรู้สึกเหมือนตัวเองอายุ 32 ซะหน่อย! สำหรับผมแล้ว อายุไม่ได้สำคัญเลยหากเทียบกับผลงานที่ผมทำ ทั้งในเรื่องฟุตบอลและเรื่องอื่นๆในชีวิต ผมไม่ได้อยากท็อปฟอร์มแค่ใน 2-3 ฤดูกาลหน้า ผมมองไปไกลกว่านั้นอีก”

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : bundesliga