จากกรณี นางสาวกฤษณา ขวัญศรี ได้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ต้องนอนทนปวดท้องกว่า 2 ชั่วโมง แต่พยาบาลไม่ยอมให้เธอเบ่งลูกออก กระทั่งแพทย์แจ้งว่า ลูกชายไม่หายใจ เสียชีวิตแล้ว โดยอ้างว่าเด็กเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ซึ่งแม่เด็กไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากการตรวจครรภ์ก่อนคลอด ลูกยังดิ้น ชีพจรยังปกติ ซ้ำทางโรงพยาบาลได้จ่ายศพผิด โดยเอาศพสลับกับครอบครัวอื่น และถูกเผาไปแล้ว ทำให้ทางครอบครัวมั่นใจว่าเป็นกระบวนการทำลายหลักฐานของคนที่มีส่วนกระทำผิด จึงเข้าแจ้งความเพิ่มเติมเมื่อคืนที่ผ่านมา
ล่าสุดเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ส.ค. 2563 ทีมบุคลาการทางการแพทย์โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร นำทีมโดยแพทย์หญิงณัฐภร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร นายแพทย์พิริยะ บุษยพรรณพงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร นายแพทย์ถาวร สายสวรรค์ รองผู้อำนวยการด้านการบริการปฐมภูมิ นายแพทย์ทนงศักดิ์ หอมทรัพย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ นายแพทย์ประพนธ์ สุนหรีกุลพงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสูตินารีเวชกรรม ได้แถลงขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แพทย์หญิงณัฐภร กล่าวว่า กรณีส่งศพทารกผิดคนเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ว่า ทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจและขอโทษกับครอบครัวคุณกฤษณา ขวัญศรี ขอน้อมรับข้อผิดพลาดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งไม่มีเจตนาให้เกิดขึ้น โดยทีมผู้บริหารเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้พูดคุยชี้แจงข้อเท็จจริงกับคุณกฤษณาและสามี ได้แสดงความเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว รวมถึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขปรับปรุงการทำงานป้องกันการเกิดเหตุซ้ำและจะนำมาเป็นบทเรียนของทุกแผนกในโรงพยาบาล
แพทย์หญิงณัฐภร กล่าวว่า ขณะที่คุณกฤษณา เจ็บครรภ์มานอนที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมเวลาประมาณ 07.50 น. และคลอดในเวลา 11.49 น. พบว่าทารกเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอดทีมแพทย์ช่วยกูชีพอย่างเต็มที่เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตอย่างกระทันหันและไม่คาดคิดทางโรงพยาบาลได้ส่งตรวจชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงแล้วที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ในวันเดียวกัน และรับกลับมาไว้ที่ห้องรักษาศพของโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 โดยจะทราบผลใน 1-2 สัปดาห์
และในวันที่ 28 กรกฎาคมมีบุตรของคุณผู้ปกครองอีกหนึ่งรายได้เสียชีวิตจากภาวะคลอดก่อนกำหนดทางโรงพยาบาลจึงให้ความสะดวกในการฌาปนกิจศพทารกซึ่งได้นัดให้มารับศพในวันที่ 1 สิงหาคม เวลา 10.30 น. ที่ห้องรักษาศพแล้วในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งหนังสือที่โรงพยาบาลเวลาประมาณ 11.30 น. เพื่อขอรับศพบุตรคุณกฤษณาไปชันสูตรซ้ำที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูอยู่ได้มารับศพในเวลาประมาณ 15:00 น. เมื่อโรงพยาบาลตรวจสอบจึงพบว่ามีการส่งมอบผิดให้กับคุณพ่ออีกรายไปจึงได้นีบประสานและแจ้งให้ทุกฝ่ายทราบ
นายแพทย์ประพนธ์ ระบุว่า ตั้งแต่คุณกฤษณา มาคลอดทางโรงพยาบาลได้ดูแลเป็นอย่างดี และกำหนดให้คลอดตามธรรมที่สากลยอมรับ และไม่ได้มีเจตนาอะไร แต่เมื่อเด็กเสียชีวิตอย่างกะทันหันทางโรงพยาบาลเองที่เป็นผู้ยืนยันที่จะให้ไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุของการตาย เพราะฉะนั้นการสลับศพเด็กจึงไม่ใช่เพื่อนำไปทำลายหลักฐาน
แพทย์หญิงณัฐภร กล่าวต่อว่าวันนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าผลน่าจะออกมาเร็ว ๆ นี้ หากพบว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นจากส่วนใดก็จะดำเนินการลงโทษตามวินัยตามที่ราชการกำหนดโดยหนักสุดถึงขั้นไล่ออก เบื้องต้นจากการตรวจสอบอาจจะมีความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เวรที่ดูแลศพ เพราะในขณะที่มีการรับศพได้มีการเปลี่ยนเวรไป แต่ทั้งนี้ทุกศพจะมีการแยกห้องเย็นกัน และจะมีรายชื่อติดอยู่ ดังนั้นจึงสอบเรื่องนี้ให้ละเอียดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางโรงพยาบาลพร้อมที่จะเยียวยาครอบครัวคุณกฤษณาตามกฎหมายต่อไป
เครดิต : ไทยรัฐ , เรื่องนี้ถึงโต๊ะหมัด
