4 ประเด็นร้อน ก่อนเริ่มเกมลีกค่ำคืนนี้ 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย การพบกับระหว่าง ปิศาจแดง ที่เปิดสนาม โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต้อนรับการมาเยือน ทอฟฟี่สีน้ำเงิน
วันที่ 6 ก.พ. 2564 ความเคลื่อนไหวก่อนเกม “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ภายใต้การนำทีม โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ มีโปรแกรมเปิดสนาม โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต้อนรับการมาเยือน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ในเกมลีกค่ำคืนนี้ 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
เป็นที่เข้าใจกันว่า “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ที่ 2 ด้วยการมี 44 คะแนนจากการลงสนาม 22 นัด เกมล่าสุดเพิ่งไล่ถล่ม “นักบุญแดนใต้” เซาแธมป์ตัน แบบไม่ไว้หน้าขาดลอยถึง 9-0 ส่วนทีมเยือน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน อยู่ที่ 7 มี 36 คะแนนแต่ลงสนามแค่ 20 นัดเท่านั้น และเกมล่าสุดบุกเฉือน “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-1 และนี่คือ 4 ประเด็นร้อนก่อนเกมคู่นี้
1.) คุมทีมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 100 ของโซลชาร์
เกมในค่ำคืนนี้คือการคุมทีมในสมรภูมิ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 100 ของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ โดยเป็นการนับรวมตั้งแต่สมัยที่เขากุมบังเหียน “นกพิราบสีน้ำเงิน” คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เมื่อช่วงปี 2014 ด้วย ก่อนที่จะได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนั้นคือ การมาคุมสโมสรต้นสังกัดสมัยค้าแข้งภายใต้ชายคาโรงละครแห่งความฝัน ในช่วงปลายปี 2018 แทนที่ โชเซ มูรินโญ กุนซือชาวโปรตุเกส ซึ่งสถิติกับทีมแรกนั้นคือได้คุมทีม 18 เกม ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 12 นัด ส่วนทีมหลังจนถึงตอนนี้คุมทีมไปแล้ว 81 เกม ชนะ 43 เสมอ 21 แพ้ 17 นัด ต้องมาดูว่าคืนนี้ ในการคุมทีมนั้นที่ 100 นั้นในการเจอกับทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ นายใหญ่ชาวอิตาเลียนจะออกมาเป็นยังไง
2.) เจ้าถิ่นต้องชนะหากหวังลุ้นแชมป์ต่อ
ด้วยสถานการณ์ทีมเจ้าถิ่นมีอยู่ 44 คะแนนจากการลงสนาม 22 นัด ตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 คะแนนแถมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ลงเล่นน้อยกว่า 1 นัดด้วย โดยช่องว่างมีสิทธิ์ที่ยอดทีมสีฟ้าแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ จะถูกถ่างออกไปเป็น 6 คะแนนและถ้าเกมในวันพรุ่งนี้ ทีมจากชายคา เอติฮัด สเตเดียม สามารถบุกไปเอาชนะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มกำลังไม่แน่นอนนั่นจะทำให้คะแนนถูกทิ้งห่างออกไปอีกหากเกมในค่ำคืนนี้ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ไม่สามารถนำทีมเก็บสามคะแนน แม้ฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล แต่การที่ไล่จะคู่แข่งทีมนี้ที่กำลังติดเครื่องทันนั้นเป็นไปได้ยาก
3.) อย่าประมาททีมเยือนเป็นอันขาด
ทีมเยือน มี 36 คะแนนจากการลงสนาม 20 นัดนั่นเท่ากับว่าพวกเขามีอยู่ในมืออีก 2 นัดถ้าเทียบกับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ลงเล่นไปแล้ว 22 นัด ทีนี้มาดูสถิติเกมเยือน 5 นัดหลังสุดของพวกเขาปรากฏว่าคว้าชัยชนะได้ถึง 5 จาก 6 นัดหลังสุดเลยทีเดียวที่เหลืออีก 1 นั้นก็สามารถเก็บผลเสมอกลับออกไปได้ และที่สำคัญพวกเขายังเอาชนะทีมใหญ่ๆ อย่าง “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ และ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ นั่นสะท้อนให้เห็นว่าทีมเยือนมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน
4.) สถิติการพบกันของทั้งสองทีม
การพบกันของทั้งคู่ 11 นัดหลังสุดนับรวมทุกรายการ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะได้ถึง 6 นัด เสมอ 1 นัด ส่วน เอฟเวอร์ตัน คว้าชัยได้ 4 เกมแต่ชัยชนะครั้งล่าสุดที่ปี 2019 พวกเขาก็สามารถไล่ถล่มทีมแชมป์ลีกผู้ดี 20 สมัย ขาดลอย 4-0 เลยทีเดียว ซึ่งตอนนั้น โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ก็เข้ามารับงานแทนและตอนนั้นฟอร์มของทีมก็กำลังย่ำแย่อย่างหนักด้วย ก่อนที่เกมนัดต่อไปจะแก้แค้นได้ด้วยการเอาชนะ 2-1
ขอบคุณ ไทยรัฐ