ส.ต.อ.โรงพักชัยนาท เจ้าบ่าวในงานแต่งกรณีเมียหลวงถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่ง เป็นฝ่ายผิดเอง อย่าโทษ อย่าด่าผู้หญิง ต่อจากนี้ ขออยู่ตรงกลาง ไม่เลือกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ส่วนลูก 2 คน จะส่งเสียจนถึงที่สุด และอาจโดนสั่งขัง 30 วัน ขณะที่เจ้าสาว ถูกนายจ้างแจ้งหนังสือพ้นสภาพพนักงานของห้างทอง ตั้งแต่วันนี้ (19 ก.พ.)
จากกรณีที่ นางนิภาพรรณ หมู่แก้ว อายุ 33 ปี ถือทะเบียนสมรสเข้าไปบุกงานแต่งของบ่าวสาวคู่หนึ่ง โดยระบุว่าฝ่ายชายคือสิบตำรวจเอกศรันญู หมู่แก้ว อายุ 34 ปี ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท สามีของเธอที่จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกันมา 16 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่แอบมาแต่งงานกับสาวอื่น จนเกิดภาพที่มีการโต้เถียงกับฝ่ายชาย ที่เธอระบุว่าเป็นสามีแต่ฝ่ายชายและเจ้าสาวกลับทำท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว และไล่เธอออกจากงาน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า วันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เวลา 14.00 น. วันที่ 19 ก.พ. ทีมข่าวสามารถติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์กับตำรวจหนุ่มนายนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากที่ผ่านมา เจ้าตัวยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์แบบซึ่งหน้า โดยทางตำรวจหนุ่ม เปิดเผยว่า ในเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนเองที่เป็นคนผิด ตนเป็นคนก่อปัญหา ขอยืดอกรับผิดอย่างลูกผู้ชาย และขอร้องว่าอย่าไปโทษหรือด่าฝ่ายเจ้าสาว เพราะเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ถ้าอยากด่า อยากโทษ ให้มาด่า มาโทษตนเพียงคนเดียว เพราะทุกวันนี้ทุกคนก็เครียด และอับอายมากพอแล้ว
ส่วนในเรื่องที่จะกลับไปคืนดีหรือปรับความเข้าใจกับภรรยาหรือไม่นั้น ได้รับคำตอบว่าเมื่อเหตุการณ์บานปลายมาขนาดนี้ ตนเองขออยู่เป็นคนกลาง อยู่ตรงกลาง เลือกที่จะไม่อยู่กับใครทั้งนั้น ส่วนลูกสาวทั้ง 2 ตนยืนยันว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดีตามหน้าที่ของพ่ออย่างสุดกำลัง
ห้างทองเยาวราชสินทวี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า จากกรณีดังกล่าว ทางเจ้าสาวคนใหม่ ซึ่งทำงานอยู่ที่ห้างทองเยาวราชสินทวีสาขาหนึ่ง ที่ชัยนาทนั้น ล่าสุด ได้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของห้างทองแล้ว ตั้งแต่วันนี้ (19 ก.พ.) เป็นต้นไป ซึ่งทางห้างทองฯ จะไม่ขอรับผิดชอบต่อการกระทำใดๆ ของเจ้าสาวคนใหม่ที่ปรากฏเป็นข่าวทั้งสิ้น นับจากวันที่พ้นจากสภาพความเป็นพนักงาน
โฆษก ตร. แจงหนุ่มแต่งเครื่องแบบตำรวจแต่งงานใหม่ ถูกเมียไลฟ์สดจนเป็นกระแสดังในโลกโซเชียล ถือเป็นเรื่องส่วนตัว หากพบเป็นผิดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ 2547 ถูกลงโทษทางวินัย ถึงกักขัง 30 วัน
ขอบคุณ ไทยรัฐ
