เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น โดนแฉอีกรอบ

“#สัญญาทาส จากประเด็นล่าสุดที่มีเด็กในค่ายได้หมดถ้าสดชื่นออกจากค่าย ก็มีแชตหลุดมาให้ประชาชนได้แซ่บกัน 1 ในประเด็นนั้นก็คือเด็กในค่ายทุกคนต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเองทุกเดือน รวมไปถึงเรียกเก็บเงินจากเด็กในค่ายที่หาได้น้อยนิดไปจ่ายค่าจ้างคนมาถูบ้าน! โถ…… ไหนบอกอยู่ฟรี กินฟรีทุกอย่างคะ?

ละบ้านที่พักก็ไม่ได้ให้อยู่แบบสวยหรูอย่างที่ทุกคนเข้าใจ! เช่าให้เด็กในค่ายอยู่พร้อมพัดลม 2 ตัว กับข้าวก็ต้องปูเสื่อทำกินเองเพราะบ้านที่เช่าให้อยู่ไกลจากตัวบ้านที่ตัวเองอยู่! คุณภาพชีวิตศิลปินอยู่ไหนคะขอถาม? และสัญญาศิลปินนี่สัญญาทาสหรือเปล่าคะ? หลังจากออกจากค่ายแล้วห้ามทำเพลง 4 ปี!!! คิดได้ยังไงอะ จะไม่ให้เด็กลืมตาอ้าปากเลยหรือคะ?”

ก่อนจะโพสต์ภาพเพิ่มเติมและเขียนข้อความว่า “#ถ้าไม่มีผ้าห่มกะที่รองพื้นคือนอนในคุกอ่ะ ขนาดพื้นที่ความสะดวกสบายของศิลปินอยู่ตรงไหนคะ? #นี่หรอที่พักศิลปินที่มีฐานแฟนคลับ เพียงเพราะพวกเค้าเป็นเด็ก ไม่ได้หมายว่าเค้าไม่ควรได้รับความสะดวกสบายนะคะ เค้าอาจอยู่ง่ายกินง่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าแบบนี้คือเหมาะสมที่เค้าจะอยู่

ถ้าไม่รู้คือคงคิดว่านี่คือที่นอนแรงงานพม่าแอบเข้าเมือง ที่เค้าทนอาจเพราะคิดว่ามีแสงที่ปลายอุโมงค์และอนาคตที่จะดัง ดังแล้วไง? ก็ต้องอยู่กะค่ายตลาดชีวิตเหรอคะ? เพราะถ้าออกมาก็หากินไม่ได้อยู่ดีอีก 4 ปี #สงสารจัง คนที่สงสัยคือไรไล่ดูโพสต์ก่อนหน้านี้นะคะ”

ต่อมา ทางค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น ก็ได้ออกมาชี้แจงทุกกรณีผ่านกลุ่มเฟซบุ๊กว่า “ใน 1 เดือนรายได้ทุกอย่างไลฟ์สด รีวิว ยอดวิวและอื่นๆ ของเด็ก DM จะอยู่ที่ 20,000 อัพ จนถึง หลักแสน สูงสุดคนที่มีเพลงดัง 2-3 แสนต่อเดือน ที่พักฟรี เก็บเฉพาะค่าน้ำค่าไฟไม่เกิน 500 บาท

เรื่องอาหารการกิน ทางค่ายมีให้ทุกมื้อ แต่เด็กบางคนสะดวกที่สั่งฟู้ด หรือบางคนอยากทำกินเองที่ห้องค่ายก็ไม่ห้าม แต่ถ้าวันไหนไม่มีเงินหรืออยากเข้ากินที่ค่าย ที่ค่ายมีให้ทั้งสามมื้อเช้าเที่ยงเย็น

ส่วนเรื่องค่าจ้างแม่บ้านไปถูบ้าน อันนี้อยู่ที่ความสมัครใจของเขา ทางค่ายมีที่พักให้แต่ไม่มีแม่บ้านให้ ซึ่งค่ายไม่ได้สบายขนาดนั้น เก็บกวาดเช็ดถูห้องของเด็กๆ เด็กต้องมีวินัยในตัวเอง ถ้าใครอยากสบายก็ต้องจ่ายค่าเหนื่อยให้แม่บ้าน ข้อนี้ชี้แจงตั้งแต่แรกๆ และทุกคนก็รับได้

นอกจากนี้เรื่องติดแอร์ ค่ายบอกทุกคนตลอด ตึกใหม่เสร็จเมื่อไรติดแอร์ทุกห้อง เพราะตอนแรกที่รับทุกคนเข้ามาไม่คิดว่าจะรับมาทั้งหมด เลยไม่ได้เตรียมการไว้ แต่ตอนนี้ก็มีแอร์ให้สำหรับบางห้อง ส่วนห้องอื่นก็ขอให้ทุกคนรอ แต่น้องๆ บางคนก็น่ารักรอได้ การเป็นศิลปินบางครั้งเราต้องลำบากบ้าง เพราะเส้นทางนี้ไม่ได้สวยหรูสบายไปทุกเรื่อง แต่ค่ายก็พยายามซัพพอร์ตให้มากที่สุด

สำหรับเรื่องสุดท้ายสัญญา 4 ปี ก่อนเซ็นถามย้ำแล้วย้ำอีก ใครไม่อยากเซ็นไม่ต้องเซ็น ทุกคนเซ็นด้วยความสมัครใจ มีผู้ปกครองรับรู้ เพราะฉะนั้นใน 4 ปีนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณจะอยู่หรือออกไป หน้าที่ของเราทั้งคู่ คือ ต้องรักษาสัญญา ขอออกจากค่ายเพราะมีเหตุผลส่วนตัวเราไม่ว่า แต่ถ้าออกไปแล้วจะไปทำเพลงเองหรือทำค่ายอื่น อันนี้ค่ายไม่โอเคเพราะผิดสัญญา โดยเราคุยกันตั้งแต่แรกว่าหน้าที่ทำเพลงคือหน้าที่ค่าย ค่ายลงทุนให้ทุกอย่าง พร้อมแบ่งยอดวิวชัดเจน”

แต่ดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ เพราะล่าสุดเพจเดิมยังโพสต์ข้อความตั้งข้อสงสัยเรื่องการเก็บค่าน้ำค่าไฟว่า “อยากถามอย่างนึงนะคะ ว่าเก็บเงินค่าน้ำค่าไฟศิลปินในค่าย 500 จำนวน 23 คน เท่ากับ ทางค่ายได้ค่าไฟจากศิลปินเดือนละ 11,500 บาท! มาจ่ายค่าน้ำค่าไฟต่อเดือนนี่ทางค่ายใช้แอร์ระบบโรงงานเหรอคะ? จากที่ได้สอบถามเด็กๆ ทางค่ายให้เค้านอนห้องพัดลมเก่าๆไม่ใช่เหรอคะ? และเงินที่เหลือไปไหน?

และอีกอย่างการที่ทางค่ายแบ่ง % 30/70 นี่ทางค่ายจะเอา 70% ไปตลอดการเป็นศิลปินของเด็กในค่ายเลยเหรอคะ? คือสอนเข้าใจนะคะว่าค่ายลงทุนไปเยอะ แต่พอได้ทุนคืนก็ต้องแบ่ง % ให้แฟร์กับค่าแรงของศิลปินสิคะ ไม่ใช่เอาระบบ 30/70 แบบดารามาใช้ ในโลกแห่งความจริงศิลปินได้ 70% นะคะ ผจกได้ 30% แต่ทางค่ายเอิ่มมมมม…… 5555 อีกอย่างเจ้าของค่ายตั้งใจจะไล่เด็กออกอยู่แล้วแต่กลับมาบอกว่าเด็กมีปัญหาต่างๆ

#ศิลปินเด็กไม่ได้มีปัญหาเรื่องสุขภาพค่ะ เค้ามีปัญหาเรื่องเงินที่ต้องรักษาตัวเค้าเพราะจขคไม่ได้มีสวัสดีการอะไรพอมีอะไรรุนแรงศิลปินเด็กก็ต้องจ่ายเอง ละตัวจขคไม่ได้แบ่งงานเท่ากันมีรายได้เท่ากันทุกคน มีหลายคนที่โดนดองงานละนั่นคือสาเหตุที่เค้าไม่มีเงินรักษาและรู้สึกไม่แฟร์กับการทำงานในค่าย #ได้หมดถ้าสดชื่น อีกอย่างเจนนี่คะ #คุณจะไม่ปล่อยให้เด็กในค่ายมีความสุขเลยหรือคะ? เด็กไปงานศพแค่แวะถ่ายรูปทะเลข้างบ้านคุณถึงขนาดต้องหาคำตอบขนาดนี้เลยหรอ? โอ้โห #นี่เจ้าของค่ายหรือเจ้าของชีวิต”.