ระดม 7 ทีมสืบสวน แกะรอยคดีคฆ่าหั่นศพ แยกชิ้นส่วนทิ้งอยุธยา

หลังจากประชุม พล.ต.ต.สุภธีร์ เปิดเผยว่า ได้ระดมตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ และด้านการสืบสวนของภาค 1 สืบสวนจังหวัด สืบสวนพื้นที่ และก็พื้นที่ใกล้เคียง มาช่วยกัน โดยแบ่งการทำงานเป็นหลายๆ หน้าที่ จัดชุดสืบสวนไว้ 7 ชุด รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้ามาร่วมในครั้งนี้ เนื่องจากความเป็นไปได้ คนตายอาจจะเป็นชาวต่างชาติ เพราะลักษณะรูปพรรณ รวมทั้งลงพื้นที่เกิดเหตุต่างจุดต่าง เพื่อตรวจกล้องวงจรปิด ทั้งในส่วนถนนสาย 347 ปทุมธานี-บางปะหัน จุดที่พบส่วนแขนและขา แบ่งกำลังอีกส่วนทำการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเช่นกัน รวมถึงสอบปากคำพยาน ที่เห็นเหตุการณ์ช่วงจังหวะมีไฟลุกไหม้ ประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 28 ก.พ.64

พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวต่อว่า จนถึงขณะนี้มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 4-5 ปาก เป็นผู้เห็นเหตุการณ์และผู้ที่ชิ้นส่วนพบศพ รวมถึงค้นหาชิ้นส่วนที่เป็นศีรษะที่หายไป ซึ่งยังไม่ทราบว่าถูกนำไปทิ้งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หรือจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งหากพบชิ้นส่วนนี้ก็จะทำให้ระบุตัวบุคคลได้ง่ายขึ้น รวมถึงผลลายนิ้วมือได้ประสานกับทางพิสูจน์หลักฐาน เพื่อที่จะเร่งรัดผลให้ออกโดยเร็ว ทั้งนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ชายที่เสียชีวิตเป็นคนไทยหรือต่างชาติ ขณะเดียวกันตำรวจได้นำพฤติการณ์การก่อเหตุไปเทียบเคียงกับคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในอดีต เนื่องจากพฤติกรรมการหั่นศพและแยกชิ้นส่วนไปทิ้งตามจุดต่างๆ เพื่ออำพรางคดี

“ตำรวจขอฝากประชาสัมพันธ์หากบุคคลใดมีคนในครอบครัวเป็นผู้ชาย ความสูงประมาณ 160-165 เซนติเมตร หายไป ให้แจ้งตำรวจในท้องที่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสบุคคลสูญหายที่สอดคล้องกับชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบ และสายด่วนพิเศษเปิดขึ้นมาเฉพาะคดีฆ่าหั่นศพ โทร. 06-2271-6711” รองผบช.ภ.1 กล่าว และว่าชิ้นส่วนลำตัวที่พบในพื้นที่วังน้อยมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม 1 แผล และการแยกชิ้นส่วนศพใช้วิธีเลาะ หรือสับตามข้อต่อของกระดูก ส่วนประเด็นการสังหารตั้งไว้ทุกประเด็น ยังไม่ตัดประเด็นใด ทั้ง ธุรกิจมืด ยาเสพติด ชู้สาว แค้นส่วนตัว เพราะยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ถ้าทราบว่าเป็นใครอาจจะมีประเด็นที่แคบมากว่านี้

จากนั้นได้เดินทางลงพื้นที่พร้อมสื่อมวลชน เพื่อตรวจดูที่เกิดเหตุด้วยตนเอง บริเวณริมถนนทางเข้าโรงงานอิฐบล็อก ม.4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นก็เดินทางกลับ.