เมียมือชำแหละศพผัว เผยเก็บความแค้นถูกทำร้ายมา 20 ปี คว้ามีดแทงเข้าอกซ้ายตายคาที่ ก่อนตัดสินใจชำแหละแยกใส่ถุงดำ 3 ถุง

คดีสะเทือนขวัญฆ่าหั่นศพคลี่คลายแล้ว ภายหลังตำรวจ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพช่วงลำตัวของชายนิรนามผิวขาว แขนขาทั้ง 2 ข้าง และศีรษะถูกตัดหายไป ศพถูกเผาทิ้งไว้ในซอยโรงงานอิฐบล็อก ถนนเข้าโครงการบ้านจัดสรรร้าง หมู่ 4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย วันเดียวกัน ตำรวจ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบแขนขามนุษย์ถูกหั่นเป็นท่อนและเผาทิ้งริมถนน 347 ปทุมธานี-บางปะหัน มุ่งหน้า อ.บางปะหัน กม.ที่ 30 หมู่ 9 ต.บางประแดง อ.บางปะอิน เบื้องต้นคาดว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกเผาทั้ง 2 จุด เป็นคนเดียวกัน แต่ส่วนศีรษะยังหาไม่พบ ทำให้ยากต่อการสืบสวนสอบสวน แต่ด้วยความสามารถของตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว ที่แท้ฝีมือเมียร่วมกับหลานฆ่าหั่นศพแยกร่าง “เสี่ยรับเหมาก่อสร้างเมืองนนท์” อ้างผู้ตายกินเหล้าเมาแล้วชอบตบตี หลานโมโหคว้ามีดแทงอกขาดใจตาย ก่อนใช้มีดสปาร์ตาบั่นคอสับแขนขายัดถุงดำขนใส่ท้ายกระบะไปเผาทิ้งในพื้นที่เปลี่ยวเมืองกรุงเก่า ตำรวจระดมค้นหาศีรษะเหยื่อคมมีด เจออยู่ในพงหญ้าสภาพเน่าเฟะ แจ้งข้อหาหนักกับทั้ง 2 คน พร้อมคุมตัวไปทำแผนทั้ง 2 จังหวัด จ่อคัดค้านการประกันตัว

 

 

พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่าสาเหตุเกิดจากการที่ นางวาสนา และ นายสุบิน ทะเลาะกันมาตลอดที่เป็นสามีภรรยากว่า 20 ปี มีการทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงเป็นประจำ จนหมดความอดทน จนเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. นายสุบิน ผู้เสียชีวิตได้ขับรถมาที่บ้านและดื่มเหล้าขาว มีอาการมึนเมา และได้ทะเลาะวิวาทกับนางวาสนา ซึ่งเป็นภรรยา

 
 

กระทั่งเวลา 22.00 น. นายสุบิน ผู้เสียชีวิตเลิกดื่มสุรา แล้วเข้าไปหาภรรยาคือ นางวาสนา แต่มีปากเสียงทะเลาะกันอีก ขณะนั้นมี นายอนันตชัย หรือ เมฆ ถิ่นชัยโย อยู่ในเหตุการณ์ พอช่วงเวลา 23.00 น. นางวาสนา และ นายอนันต์ชัย ได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุ โดยใช้มีดแทงที่ราวนมซ้ายของนายสุบิน จนเสียชีวิต และทั้งสองได้นั่งอยู่ข้างศพประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนตัดสินใจหั่นแยกชิ้นส่วนศพของผู้เสียชีวิต แล้วไปซื้อถุงดำที่ร้านสะดวกซื้อ และร่วมกับนายอนันตชัย หั่นแยกชิ้นส่วนเป็น 3 ถุง คือ มือ แขน ขาจำนวน 1 ถุง ศีรษะ 1 ถุง และส่วนลำตัวใช้ป้ายไวนิลมาคุมร่าง ใช้เชือกมัด จำนวน 1 ถุง

 

 

“จากนั้นเวลาประมาณ 02.00 น. ได้นำศพและชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตออกไปทิ้ง โดยใช้รถยนต์อีซูซุสีขาว ณท 6274 กทม. และได้แวะซื้อน้ำมันดีเซลบี 7 ที่ปั๊ม ปตท.ราชพฤกษ์ โดยใช้ถังแกลลอนสีเหลือง เป็นเงินจำนวน 140 บาท ขับมุ่งหน้าไปยังอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำการทิ้งถุงดำที่ใส่ชิ้นส่วนแขนขา บริเวณถนนสาย 347 จุดที่ 1 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนน 3056 เพื่อทิ้งถุงดำส่วนหัว ในบริเวณจุดที่ 2 ต่อมา นายอนันตชัย หลานชายได้ขับรถมุ่งหน้าสายเอเชียไปสระบุรีและเลี้ยวไปหลังวัดชูจิตในจุดที่ 3 เพื่อทิ้งชิ้นส่วนลำตัวเป็นลำดับสุดท้าย และผู้ก่อเหตุทั้งสองได้ขับรถกลับบ้าน เวลาประมาณ 08.00 น. นายอนันต์ชัยได้ออกไปทำงาน และนำมีด เสื้อผ้า ที่ใช้ก่อเหตุโยนทิ้ง”

 

 

สำหรับ นายอนันตชัย ถิ่นชัยโย อายุ 23 ปี เคยขับรถแบ็กโฮในบริเวณที่เกิดเหตุ อ.วังน้อย จุดที่นำชิ้นส่วนลำตัวไปเผาทิ้ง จึงรู้เส้นทาง นอกจากนี้ยังเป็นคนชอบขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำให้ทราบเส้นทางและจุดที่เปลี่ยว ในการนำชิ้นส่วนที่ชำแหละไปทิ้งและเผา

 

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ