ศบค.เตรียมจัดสรรวัคซีน Pfizer ให้กับเด็กนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 12-17 ปี จำนวน 4.8 ล้านโดส คาดว่าจะสามารถเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนในประเทศไทยได้ประมาณเดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งการฉีดวัคซีน Pfizer จะเป็นการฉีดแบบสมัครใจของผู้ปกครองเท่านั้น
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ถึงแนวทางการจัดสรรวัคซีนจำนวน 24 ล้านโดส ในระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 31 ตุลาคม 2564 ว่า ศบค. มีแผนที่จะกระจายวัคซีนไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุม
โดยในแต่ละกลุ่มก็จะได้รับการฉีดวัคซีนในสูตรที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม ดังนี้
1.ประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศจะใช้สูตร Sinovac+AstraZeneca โดยจะจัดสรรในจำนวนร้อยละ 70 หรือประมาณ 16.8 ล้านโดส
2.นักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ทั่วประเทศ จะใช้สูตร Pfizer+Pfizer โดยจะจัดสรรในจำนวนร้อยละ 20 หรือประมาณ 4.8 ล้านโดส
3.แรงงานในระบบประกันสังคม จะใช้สูตร Sinovac+AstraZeneca โดยจะจัดสรรในจำนวนร้อยละ 3 หรือ 0.8 ล้านโดส
4.หน่วยงานอื่น ๆ เช่นองค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ โดยจะจัดสรรในจำนวนร้อยละ 5 หรือ 1.1 ล้านโดส
5.ผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม และต้องการเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) Sinovac+Sinovac และ AstraZeneca
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงแนวทางการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กเรียนทั้งประเทศด้วยวัคซีน Pfizer ซึ่งจะเน้นไปที่เด็กอายุตั้งแต่ 12-17 ปี เท่านั้น โดยแนวทางในการดำเนินการ ศบค. ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางที่เหมาะสมผ่านการพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ รวมไปถึงการทำความเข้าใจและชี้แจงกับผู้ปกครองทุกราย ส่งรายละเอียดใบยินยอมการเข้ารับวัคซีนอย่างละเอียด เพราะที่ผ่านมามีหลายฝ่ายกังวลถึงความปลอดภัยในการฉีดวัคซีน Pfizer ในเด็ก เนื่องจากมีรายงานว่าไม่มีความปลอดภัยมากพอและเสี่ยงที่จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ดังนั้นการดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับเด็กเรียนจะไม่มีการบังคับ แต่จะเป็นการฉีดตามความสมัครใจของผู้ปกครองเท่านั้น
ส่วนรูปแบบการดำเนินการจะต้องรับบริการฉีดวัคซีนผ่านทางสถานศึกษาเท่านั้น อาทิ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัด สำนักงานคระกรรมการการอาชีวะศึกษา โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนสอนศาสนา สถาบันการศึกษาอื่น ๆ ที่มีนักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้หากนักเรียน ในสถาบันการศึกษามีอายุเกิน 18 ปี ให้รับการฉีดวัคซีน PfiZer ได้โดยการอนุโลม อย่างไรก็ตาม ศบค.ได้มอบหมายให้สถานศึกษาสำรวจจำนวนนักเรียนที่มีความประสงค์จะฉีดวัคซีนเข้ามา จากนั้นใหแจ้งไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่ เพื่อแจ้งมายังกรมควบคุมโรค และให้กรมควบคุมโรคดำเนินการจัดสรรวัคซีให้ตามจำนวน เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนในประเทศไทยได้ประมาณเดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คมชัดลึก
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : Thairnews,ไทยรัฐออนไลน์