คนร้าย บุกเดี่ยวใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ ธนาคาร ย่านรังสิต ขณะ รปภ.โดดขวาง เกิดการต่อสู้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนร้ายถูกแทงเช่นกัน และเสียชีวิต ในเวลาต่อมา
เมื่อเวลา 14.10น.วันที่ 2 ธันวาคม2564 พ.ต.ต.ศิโรจน์ แนบเนียน สว.สอบสวนสภ.คลองหลวง รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์เหตุเกิดภายในธนาคารออมสิน สาขาทียูโดม รังสิต ถนนเชียงราก-บางขัน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุภายในธนาคารออมสิน พบรอยเลือดเป็นทางยาว ตั้งแต่หน้าเคาน์เตอร์ จนถึงถนนเชียงราก บริเวณลานจอดรถบริเวณริมถนนหน้าทางเข้า พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่กลางอก 1 แผลยังไม่ทราบชื่อ เป็นชายไทย อายุ 25-30 ปี ถูกใส่กุญแจมือไพล่หลัง ข้างกันพบอาวุธมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 20 ซม. เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม ห่างกันเล็กน้อยพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของ รปภ.ธนาคารออมสิน ทราบชื่อ นายขุนทอง ศรีไชยะ ได้รับบาดเจ็บถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่หน้าอก อาการสาหัสถูกนำตัวส่งรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นอกจากนี้ริมทางยังพบรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น N-Max สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ 1 คัน จากการตรวจต้นใต้เบาะรถพบแผ่นป้ายทะเบียนรถหมายเลข ทะเบียน 2ขฆ-4621 กทม.อยู่ใต้เบาะ
สอบสวนเบื้องต้น นายยุทธนา เกิดแสง พนักงานสินเชื่อธนาคารออมสินให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนเองทำหน้าที่เจ้าหน้าที่สินเชื่ออยู่ที่เคาน์เตอร์ คนร้ายเข้ามาภายในธนาคารพร้อมอาวุธมีด ก่อนเดินตรงมาที่ตน ตนจึงหลบเข้าไปที่ห้องแม่บ้าน
จากนั้นคนร้ายก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์แล้วใช้อาวุธมีดที่ติดตัวมา บังคับขู่พนักงาน ชิงเงินจากลิ้นชักไป ขณะนั้นเองเจ้าหน้าที่ รปภ.ไม่ยอม จึงมาขวางหน้า แล้วเกิดการต่อสู้กันภายในธนาคาร ก่อนคนร้ายแทง รปภ.จนบาดเจ็บแล้ววิ่งหนีเพื่อไปขึ้นรถจยย.ที่จอดไว้ริมทาง เจ้าหน้าที่ รปภ.วิ่งตามไป ทั้งที่บาดเจ็บอยู่ ก่อนจะเกิดการสู้กันด้วยอาวุธมีด จนคนร้ายถูกแทงสวนเช่นเดียวกัน จากนั้นพลเมืองดีก็เข้ามาช่วยเหลือ ด้วยการมัดคนร้ายไว้ และประสานตำรวจและกู้ภัยมาที่เกิดเหตุ ก่อนที่คนร้ายจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนเงินที่คนร้ายได้ไปก็ตกอยู่รายทางตั้งแต่หน้าธนาคาร
ด้านนายชนากรณ์ จารัตน์ อายุ 18 ปี เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุ ตนอยู่ที่ร้านค้าริมทาง พบคนร้ายวิ่งออกมาเพื่อจะขึ้นรถ จยย. สภาพทั้งคนร้ายและรปภ.ชุ่มไปด้วยเลือด โดยมีการปลุกปล้ำกับเจ้าหน้าที่รปภ.ที่วิ่งไล่ตามมา ตนและพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์จึงวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ และจับคนร้ายมัดมือล็อกแขนไว้ โดยมีคนเข้าไปช่วยเหลือที่เป็นพลเมืองดี 3 คน หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ขอบคุณ ไทยรัฐ/sanook.com/แนวหน้า