เกียร์อัตโนมัติในปัจจุบันมีรูปแบบที่หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคันเกียร์แบบตรง และแบบขั้นบันได ซึ่งทั้งคู่ล้วนแต่ละมีลักษณะการใช้งานแทบไม่ต่างกันเลย แล้วคุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าแบบไหนดีกว่ากัน
เกียร์อัตโนมัติแบบตรง
อันนี้พบเห็นได้บ่อยในรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ โดยเกียร์ลักษณะนี้จะถูกออกแบบให้มีปุ่มสำหรับปลดล็อกเพื่อป้องกันการเข้าเกียร์โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าใจง่าย และมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากจะต้องกดปุ่มปลดล็อกทุกครั้งที่ขยับออกจากตำแหน่ง P หรือพยายามจะเข้าเกียร์ R (เกียร์ถอยหลัง) เว้นแต่การสลับไปมาระหว่างเกียร์ N (เกียร์ว่าง) และเกียร์ D (เดินหน้า) ที่ไม่จำเป็นต้องกดปุ่มแต่อย่างใด
กรณีที่รถมีตำแหน่งเกียร์ 2, 1 หรือ L ผู้ขับขี่ก็จำเป็นจะต้องกดปุ่มปลดล็อกก่อนด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงการเข้าเกียร์ผิดที่อาจนำไปสู่การชะลอความเร็วอย่างกะทันหันได้
เกียร์อัตโนมัติแบบขั้นบันได (Gate type)
รูปแบบเกียร์ลักษณะนี้ส่วนมากจะพบได้ในรถยนต์หรู เนื่องจากจะช่วยให้ห้องโดยสารดูมีความพรีเมียมมากยิ่งขึ้น โดยเกียร์แบบขั้นบันไดไม่จำเป็นต้องมีปุ่มปลดล็อก หากแต่ใช้การผลักคันเกียร์ไปทางด้านข้างควบคู่ไปกับการขยับขึ้น-ลงด้วย แต่ถึงแม้ว่าเกียร์ลักษณะนี้จะไม่มีปุ่มปลดล็อก ก็ยังคงให้ความปลอดภัยไม่แตกต่างกับเกียร์แบบตรง ยกตัวอย่างเช่นกรณีจะผลักจากตำแหน่งเกียร์ N (เกียร์ว่าง) ไปยังตำแหน่ง R (เกียร์ถอยหลัง) ผู้ขับขี่ก็ยังจำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้ก่อนอยู่ดี มิเช่นนั้นก็จะไม่สามารถผลักคันเกียร์ไปทางด้านหน้าได้
นอกจากรูปแบบเกียร์ทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมาข้างต้นนั้น รถยนต์หรูบางยี่ห้อยังหันไปใช้เกียร์แบบไฟฟ้า ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับจอยสติกที่สามารถเด้งกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมได้ตลอดเวลา ซึ่งรูปแบบการโยกคันเกียร์ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อนั่นเอง
แต่ไม่ว่าเกียร์ของรถคุณจะมีหน้าตาเป็นแบบใด สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้งานอย่างถูกต้อง เข้ารับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการคิกดาวน์โดยไม่จำเป็น จะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้ในระยะยาว
ขอบคุณ sanook.com