อีกหนึ่งความสูญเสียของวงการบันเทิงไทย หลังการเสียชีวิตของเจย์ ศุภกาญจน์ ปลอดภัย ศิลปินและอดีตดีเจคลื่นอารมณ์ดี 98.5 Good FM และยังเป็นลูกชายของแม่เจี๊ยบ กาญจนาพร ปลอดภัย อดีตดารานักแสดงชื่อดังและผู้จัดละครช่อง 7 จบชีวิตภายในบ้านย่านพัฒนาการ หลังรักษาไบโพลาร์มาเกือบ 2 ปี บวกกับปัญหาธุรกิจช่วงโควิดทำลูกยอมแพ้
ทางครอบครัวได้เดินทางไปรับศพของ เจย์ ที่นิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี แม่เจี๊ยบ กาญจนาพร พร้อมด้วยลูกสาวคนโตเดินทางมาด้วย โดยทางครอบครัวได้มีพิธีรดน้ำศพที่นิติเวชแล้ว ก่อนที่จะนำร่างของ เจย์ มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อที่วัดธาตุทอง
บรรยากาศที่วัดธาตุทอง เมื่อศพได้เคลื่อนมาถึง มีคนในครอบครัว ญาติ และคนสนิทได้มาร่วมไว้อาลัยให้กับการจากไปของ เจย์ กันเป็นจำนวนมาก ด้าน แม่เจี๊ยบ นั้นเศร้าอย่างมากกับการจากไปของลูกชายอย่างไม่ทันคาดคิด ยืนมองดูที่โลงศพของลูกอยู่ตลอดเวลา
ด้าน เข็ม รุจิรา นักแสดงสาวและอดีตคนรักของ เจย์ ศุภกาญจน์ ก็ได้มาร่วมไว้อาลัย พร้อมกับเข้ามาให้กำลังใจครอบครัวอีกด้วย
สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรมศพของ เจย์ ศุภกาญจน์ จะจัดขึ้นที่วัดธาตุทอง ศาลา 28 ในวันที่ 23-24 เม.ย. เวลา 18.00 น. และในวันที่ 25 เม.ย. จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมในเวลา 18.00 น. ต่อด้วยพิธีฌาปนกิจในวันเดียวกัน เวลา 19.00 น.
หลังจากที่เคลื่อนศพของ เจย์ ศุภกาญจน์ มาที่วัดธาตุทอง เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ครอบครัวเจี๊ยบ กาญจนาพร, เจฟฟ์ พรภูมิ ปลอดภัย น้องชายคนเล็ก และ จั๊มพ์ กมลรัตน์ ปลอดภัย พี่สาวคนโต ก็ได้เปิดใจทั้งน้ำตาว่า
เจี๊ยบ : เจย์เขาเป็นลูกชายคนกลาง ทุกคนเสียใจมาก
มีเหตุการณ์อะไรที่เป็นสัญญาณบอกก่อนมั้ย?
เจฟฟ์ : เขามีโรคประจำตัวอยู่ ก็รักษาตัวอยู่แต่สถานการณ์ต่างๆ มันไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไร รวมถึงบ้านเมืองด้วย ก็สู้มาเต็มที่แล้ว
เจี๊ยบ : ทำให้ทุกอย่างมันแน่นไปหมดตั้งแต่โควิด เราก็ช่วยกันทุกอย่างเท่าที่เป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา เพื่อที่จะประคองให้มันดีขึ้น แล้วก็ให้กำลังใจเขาว่าสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมามันไปได้ แต่เขาก็อยู่ในอาการ
เขาเป็นโรคอะไรบ้าง?
เจฟฟ์ : เขาเป็นไบโพลาร์ ก็รักษามาด้วยตัวยาที่รักษา อยู่ไปนานๆ ความคิดมันก็จะเริ่มกลับคืนมา ความจำต่างๆ ที่เคยทำไม่ดี ไม่ถูกไว้ มันจะมีความรู้สึกผิดอยู่ในตัวเยอะ แล้วมันก็คิดวนๆ ไปทุกๆ วันเป็นเวลาจะ 2 ปี
เจี๊ยบ : เขารักษาโรคนี้มาจะเกือบ 2 ปีแล้ว จนเขาเข้าสู่ความสงบ นิ่ง เฉย แล้ว มันก็เป็นกระบวนการการใช้ยาของโรคนี้ตามสเตป
มันพัฒนาไปสู่โรคซึมเศร้ามาด้วย?
เจฟฟ์ : โรคมันขึ้นไปสู่จุดที่สูงที่สุดแล้วก็ลงมาจุดต่ำที่สุด (คือซึมเศร้า?) ครับ
เขามีปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจหรืออะไร?
เจฟฟ์ : ถ้าพูดตามตรงตอนนี้ทุกคนก็มีปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจกันหมดอยู่แล้ว เศรษฐกิจมันไม่ดี
เจี๊ยบ : แต่การจัดการของคนปกติเขาก็จะจัดการได้ แต่การจัดการของคนมีอาการมันแพ้…มันแพ้ (สะอื้น) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางครอบครัวเราก็ดูแลกันเต็มที่ เพียงแต่การก้าวเข้าไปอยู่กับเขา ประกบเขามันยากค่ะ
คนในบ้านจะรู้ว่ายากที่จะประกบอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ได้แต่ชวนให้มาอยู่ด้วยกัน มาเป็นลูกน้อยของแม่ เขาก็บอกว่าได้เหรอ เราก็บอกได้ มาเลย แต่เขาก็เลือกของเขา
ก่อนที่จะมาบ้าน เขาไปอยู่กับแม่ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. ไปปฏิบัติธรรม คือมันไม่มีอะไรบอกเลย พอมันวิบมาก็วิบเลย ตอนที่เขาปฏิบัติธรรม พระอาจารย์บอกว่าเขาภาวนาดีมาก
เราพาทำทุกอย่าง วัดข้างบ้านที่บ้านโป่ง เราก็พาไปขอขมา ยกธูปเทียนแพ เขาบอกอันนี้อะไรแม่ เจย์ไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะว่าอันนี้คือธูปเทียนแพ เอาไว้ขอขมา
พอเขารู้เขาก็บอกเอาๆ เขาก็ขอขมาพระอัฐิธาตุ แปะทองพระ ขอพรพระ ที่หนองเสือ แล้วก็มาที่บ้าน เขาก็ชี้พระแล้วถามว่าพระองค์นี้ชื่ออะไร เราก็บอก
เราก็นั่งบอกแล้วก็บอกเขาว่าเราสามารถขอขมาพระพุทธเจ้ากับพระพุทธรูปได้เลยนะ ช่วงปีใหม่ทำไว้ก็ดีเหมือนกัน ก็จะให้เขาทำสิ่งดีๆ ให้เสริมบุญเขา
แม่พยายามพาเขาพึ่งธรรมะ?
เจี๊ยบ : ก็ต้อง นิดๆ หน่อยๆ ก็ต้องเก็บ ก็ยังเป็นภาพจำที่ดีก่อนที่เขาจะเป็นแบบนี้ อย่างน้อยเขาได้เก็บ เขาได้ไปปฏิบัติกับองค์อริยะ เป็นศิษย์หลวงตามหาบัว ที่วัดที่ศาลายา ที่วัดก็ยังชม
พอจะออกจากวัดก็ไปถวายผ้าไตร เราบอกกับเขาว่าทุกปีเราควรจะถวายผ้าไตรนะ เขาก็ยินดีถวาย พระท่านก็บอกว่าผ้าไตรจะเก็บไว้ให้ลูกชาย ลูกชายต้องบวช เขาบวช
แม่อยากให้เขาบวช?
เจี๊ยบ : ไม่ ทางวัดเขาบอกว่าเจย์จะบวช
เจฟฟ์ : เขาอยากจะบวชเองครับ
เจี๊ยบ : เราก็ตอบไปว่าเจ้าค่ะ เราดีใจ นั่นคือสิ่งที่เขาได้เก็บก่อนที่จะมีวันนี้
ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ที่เจย์ต้องต่อสู้กับโรค เขามีกำลังใจมากแค่ไหน?
เจฟฟ์ : มันเต็มที่แล้วครับ เราก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ ให้กำลังใจกันมาเรื่อยๆ คอยพูดคอยบอก คอยอะไรต่างๆ เราเองก็ศึกษาเยอะ อ่านเยอะ พยายามกันอย่างเต็มที่ ตัวเขาเองก็สู้อย่างเต็มที่แล้ว
เจี๊ยบ : การพูดคุยกับเขา เราต้องหาข้อมูล โดยลูกชายจะเป็นคนหาแล้วมาถ่ายทอดให้แม่ว่าอันนี้บางทีต้องพูดอย่างนี้ มันเยอะ รายละเอียดมันเยอะมาก
มันอยู่ที่ตัวเขาด้วย ตัวเขาเองก็มีความดื้อมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คิดว่าตัวเองแข็งแรง เขาเอาอยู่ ปรากฏว่าโรคนี้มันไม่ใช่ มันเป็นการหลั่งสารเคมีในสมองที่มันเอาไม่อยู่
นำร่างไปอัญเชิญดวงวิญญาณที่บ้าน?
เจี๊ยบ : เราก็สืบถามไปว่าควรทำยังไง เราก็ต้องทำ เพราะเขาจะเดินทางแล้วเราก็ต้องทำให้ถูกต้องทุกอย่าง หลังจากนี้ก็มีหน้าที่จิตภาวนาส่งให้เขารู้ถึงโทษทัณฑ์ เมื่อรู้แล้วก็หลุดจากโทษทัณฑ์ด้วยอะไร มันเป็นเรื่องของจิตภาวนา ไม่ใช่เรื่องของทำบุญทำทานแล้ว.
ขอบคุณ ไทยรัฐ/ผู้จัดการออนไลน์/มติชน