สาวรับสารภาพแล้ว กุเรื่องมีความสัมพันธ์กับหลวงพี่กาโตะ แต่ชาวเน็ตกลับตั้งข้อสงสัย

สาวยอมรับสร้างเรื่องมีเซ็กส์กับพระ จนคนโยง หลวงพี่กาโตะ อ้างป่วยไบโพลาร์ 5 เดือน ต้องลาออกงานมารักษาตัว ทำอารมณ์ไม่ปกติ จินตนาการไปเรื่อยจนสร้างหลักฐานปลอม ของดให้สัมภาษณ์ถึงหลวงพี่ คดีพลิกแรงจนทัวร์ลงสนั่น  

 

 

จากกรณีคลิปเสียงและข้อความ อ้างเป็นการสนทนาระหว่างหญิงสาวรายหนึ่ง พูดแทนตัวเองว่า “ตอง” และเสียงผู้ชายอ้างว่าเป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง แอบมีสัมพันธ์กับหญิงสาวในรถยนต์ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กัน ขณะที่พระนักเทศน์ชื่อดัง คือหลวงพี่กาโตะ พระนักเทศน์ชื่อดังที่ถูกกล่าวหาได้ออกมาปฏิเสธ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

ล่าสุดวันที่ 28 เม.ย.2565 หญิงสาวชื่อตอง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งคลิปเสียงและข้อความแชตกัน ตนสร้างเรื่องขึ้นมาเพราะอาการป่วยและอารมณ์ที่ไม่ปกติของตนเอง อาการป่วยของโรคนี้ทำได้หมด สามารถจินตนาการอะไรก็ได้และถึงขั้นลงมือทำ

          

ทั้งนี้ ตนอยากจะขอโทษสังคม ขอโทษทุกคน ขอโทษพระพุทธศาสนา และทุกฝ่ายที่ทำให้เสื่อมเสีย จากนี้ขอไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องที่เกิดขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับหลวงพี่ เพราะถือว่าตนพูดไปหมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง

 



         

คดีพลิกแบบนี้ แต่เรื่องราวดราม่ายังไม่จบ เพราะโลกออนไลน์ยังคงแสดงความคิดกันดุเดือด เพราะสงสัยว่าคลิปเสียงสามารถทำให้เนียนได้ขนาดนั้นเลยเหรอ มันยากมาก แล้วเธอเก่งมาจากไหนถึงสามารถทำได้ อยากให้โชว์ฝีมือตัดต่อคลิปเสียงให้สังคมได้ดู เพราะถ้าทำได้จริงก็คงระดับฮอลลีวูด

 

 

ทั้งนี้ มีชาวเน็ตวิจารณ์แรงถึงขั้นมองว่าเรื่องนี้อาจมีการจ่ายค่าเสียหายให้กันแล้วหรือไม่ ฝ่ายหญิงถึงได้ออกมาแก้ข่าวเร็วขนาดนี้ เรียกว่า “จ่ายครบจบแน่” หรือ “เจอ จ่าย จบ” ป่วยง่ายหายไว เงินคงเข้าบัญชีแล้วแน่ ๆ หลายคนงงว่าจินตนาการอย่างไร จนมีสลิปการโอนเงินก็เป็นหลักฐาน

 
 
 

อีกด้านมองว่าตอนแรกที่ปล่อยคลิปเสียงออกมายังไม่เชื่อ แต่ผ่านไปไม่กี่วัน บอกออกบอกว่าเป็นอาการป่วย แหม.. ตอนนี้เชื่อทันทีเลยว่าคงเป็นอย่างข่าวลือ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าไม่ติดที่ฝ่ายหนึ่งห่มผ้าเหลืองอยู่คงไม่มีใครว่าอะไร ถ้าอยากจะทำเรื่องแบบนี้ก็ควรลาสิกขาออกไปก่อน



อย่างไรก็ตาม หลายคนกำลังหาความเชื่อมโยงระหว่างโรคไบโพลาร์ กับการสร้างหลักฐานเท็จ เพราะไม่มีความเชื่อมโยงกันเลย เหมือนไปโทษโรคภัยทั้งที่ยังไม่ศึกษารายละเอียดและธรรมชาติของโรค เนื่องจากเป็นโรคที่มีความผิดปกติทางอารมณ์แบบ 2 ขั้ว คือ อารมณ์ดี คึกคัก สนุกสนาน นอนน้อย กับอารมณ์เศร้า เบื่อหน่าย ท้อแท้ นอนมาก มองทุกอย่างในแง่ลบ แต่หญิงสาวกลับบอกว่าเป็นการจินตนาการแล้วลงมือทำหลักฐานปลอมขึ้นมา แบบนี้ก็ได้เหรอ ?!

 

 

 

 

 

ขอบคุณ kapook.com/เดลินิวส์ออนไลน์เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว