ดราม่าหลวงปู่แสง ล้วงของลีบสีกา กระแสตีกลับหมอปลา และมุ่งไปที่ลูกศิษย์ เอาท่านมาหาประโยชน์หรือไม่ เพราะหลวงปูอายุเกือบ 100 ปี หมอยืนยันว่าหลวงปู่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ มีอาการอาพาธ ไม่สามารถเดินได้
จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ หมอปลาช่วยด้วย ของ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ได้โพสต์คลิปวิดีโอ หลวงปู่ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดป่าแห่งหนึ่ง ในอำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร มีลูกศิษย์ผู้ชายนั่งประกบอยู่ข้างๆ เวลาญาติโยมผู้หญิงมากราบก็จะถูกเรียกเข้าไปใกล้ๆ หลวงปู่ก็จะรูปหัว จับแก้ม จับหน้าอก-อวัยวะเพศ และโอบกอดตามคลิป จนโยมผู้หญิงบางรายถึงกับสะบัดและรีบลุกหนี นอกจากนี้ยังมีคลิปพระลูกวัดของวัดดังกล่าวดื่มปัสสาวะของหลวงปู่ โชว์สื่อมวลชนที่ไปทำข่าวอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า หลวงปู่คนดังกล่าวคือ หลวงปู่แสง ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ มีอาการอาพาธ ไม่สามารถเดินได้
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ภายหลังที่ข่าวถูกนำเสนอออกไป กระแสสังคมเริ่มตีกลับไปที่หมอปลา หลายคนคอมเมนต์ไปที่ใต้คลิปที่หมอปลาลงแฉหลวงปู่ มองว่าหมอปลาทำเกินกว่าเหตุ เพราะด้วยสภาพของหลวงปู่แสงที่อายุเกือบ 100 ปี ไม่น่าจะมีสติมากพอที่จะทำอะไรแบบนี้ได้ และคนที่ผิดก็น่าจะเป็นลูกศิษย์มากกว่าที่ปล่อยให้สีกามาเข้าใกล้ หมอปลาควรมีวิจารณญาณกว่านี้ ก่อนที่จะลงมือทำอะไรไป นี่กำลังจะส่งเสริมศาสนาหรือทำลายศาสนากันแน่
ขณะเดียวกัน เมื่อดูคลิปต้นเรื่อง จะเห็นได้ว่า มีการตั้งกล้องแบบนิ่ง ๆ เตรียมการอย่างดีที่จะถ่ายในช่วงที่หลวงปู่แสงแตะเนื้อต้องตัวสีกา โดยที่สภาพของหลวงปู่ที่เห็นในคลิป คล้ายกับคนไม่มีสติ คนถ่ายคลิปมีเจตนาอะไรกันแน่ ส่วนลูกศิษย์ที่คอยปรนนิบัติก็ไม่ได้รู้สึกเฉลียวใจถึงความไม่เหมาะสมเลยสักนิด
ล่าสุด วันนี้ (12 พ.ค.) ในโลกออนไลน์บรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้ศรัทธาใน หลวงปู่แสง ได้ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมโพสต์และติดแฮชแท็ก #SAVEหลวงปู่แสง
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า ราชสีห์ จิตอาสา ซึ่งมีผู้กดติดตาม 5 แสนกว่าราย ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับหลวงปู่แสง ระบุว่า “พระชรากับสีกา.. มันสมควรแล้วหรือ ต้องดูเจตนาของคนสร้างข่าว และขบวนการที่พาสีกาเข้าไปมีจุดประสงค์อะไร
ผมยังคงศรัทธาท่าน พระกรรมฐานที่บวชเรียนกับหลวงปู่มั่น ท่านอายุเข้า 100 ปี พรรษาที่ 76 เป็นศิษย์ที่มีอายุสูงสุดปัจจุบันนี้ของหลวงปู่มั่น ที่ยังมีชีวิตอยู่ #ชมคลิปใต้โพสนี้ #อ่านข่าวแล้วเศร้าใจ
ฉันใดถึงกล้าบุกวัดพานักข่าวกระทำอันไร้ซึ้งการสัมมาคารวะและเหตุผลข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการไล่ท่านให้สึกจากการเป็นพระ คำพูดที่หลบหลู่ไล่ให้ท่านสึก โดยขาดการตรวจสอบและไตร่ตรองก่อน บทสรุปการขอโทษขอขมาคงไม่เท่ากับชดใช้กรรมที่ได้ก่อในครั้งนี้ ขอน้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์”
ด้านหมอปลา ชี้แจงว่า แต่ที่ประเด็นบานปลาย เพราะพระที่อยู่ข้างๆ อวดอ้างอุตริเอง ว่าหลวงปู่สามารถรักษามะเร็ง อุจจาระและปัสสาวะ หรือร่างกายหลวงปู่เป็นพระธาตุ ทำให้เรื่องบานปลาย หากไม่เชื่อสามารถสอบถามสำนักพุทธได้เลย เพราะผอ.สำนักพุทธเข้าร่วมตรวจสอบด้วย แต่เมื่อมีคนบอกหมอปลาจัดฉาก ถ้าจัดฉากจะมีคนร้องเรียนมาเรื่อยๆ ได้อย่างไร
ขอบคุณ ไทยรัฐ/kapook.com