ลูกชายวัย 4 ขวบเข้าฝันพ่อแท้ๆ บ่อยจนเอะใจ แม่อ้ำอึ้งสารภาพว่าลูกตายด้วยฝีมือพ่อเลี้ยง

แปลกแต่จริง ลูกชายวัย 4 ขวบ เข้าฝันพ่อแท้ๆ บ่อยจนพ่อเอะใจ จึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาอดีตภรรยาแบบถี่ขึ้น จนอดีตภรรยาแชตไลน์ตอบกลับมาบอกว่า ลูกชายเสียชีวิตแล้วเพราะอาหารติดลำคอ แต่ตนเองไม่ปักใจเชื่อ จึงเข้าแจ้งความสน.บางพลัด จนกระทั่งสืบทราบพ่อเลี้ยงแอบทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี อาชีพพนักงานไรเดอร์ พ่อแท้ๆ ของ ด.ช.เอ ผู้เสียชีวิต เข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่า บุตรชาย เสียชีวิตลงอย่างน่าสงสัย หลังเลิกรากับ น.ส.นก (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ภรรยานอกสมรสและเป็นแม่ของเด็ก ตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค.2564 จากนั้นแยกย้ายกันและไม่สามารถติดต่อลูกได้อีก กระทั่งตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. นายหนึ่ง ฝันเห็นบุตรชายมาเล่นด้วยแทบทุกวัน จนเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย. ลูกมาหาในฝันแบบแปลกๆ มาถึงแล้ว เดินหันหลังไม่ยอมพูดคุยด้วย ทำให้ นายหนึ่งเอะใจจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหา น.ส.นก แบบถี่ขึ้น จน น.ส.นก แชทไลน์ ตอบกลับมายอมรับว่า ลูกเสียชีวิตเพราะอาหารติดลำคอไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พ.ค. และฌาปนกิจศพไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 พ.ค.แล้ว

ผู้เป็นพ่อไม่ปักใจเชื่อ เพราะรู้ว่า อดีตภรรยาคบหาอยู่กินกับนายพัสวีร์ ที่หอพักดังกล่าว ได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว จากนั้นได้ติดต่อไปที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ที่ลูกชายเข้ารักษาตัว ได้รับข้อมูลสำคัญมาว่า ลูกเข้ามารักษาตัวตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 พ.ค. มีอาการบาดเจ็บคล้ายถูกทำร้ายร่างกาย กระทั่งทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 27 พ.ค. เบื้องต้นมีน.ส.นก เป็นผู้เดินทางมารับศพ โดยผลชันสูตรของแพทย์ระบุ เสียชีวิตเพราะ “ลำไส้เล็กส่วนต้นฉีกขาดหลายแห่งและภาวะแทรกซ้อนจากลำไส้เล็กฉีดขาดจากการถูกทำร้าย” นอกจากนี้ ยังมีอาการซี่โครงและตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ได้แนะนำให้น.ส.นก แจ้งความกับพนักงานสอบสวน แต่ น.ส.นก ก็นำศพลูกไปฌาปนกิจที่แทน

นายหนึ่งเข้าปรึกษากับทางมูลนิธิปวีณาฯ และประสานพ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผู้กำกับการกสน.สามเสน ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ จนทราบข้อเท็จจริงว่า ในวันที่เกิดเหตุ นายพัสวีร์ อยู่กับผู้ตาย ในห้องพัก เพียง 2 คน ส่วนน.ส.นก ออกไปทำธุระข้างนอก กระทั่งได้หลักฐานเป็นคลิปเสียง ด.ช.เอ ร้องไห้และเสียงคล้ายถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นคลิปเสียงที่ชาวบ้านบันทึกเอาไว้มามอบให้ ประกอบกับนำผลชันสูตรของแพทย์มาพิจารณา จนเป็นที่มาของการเดินทางไปควบคุมตัว นายพัสวีร์ มาแจ้งข้อหาดำเนินคดี 

เบื้องต้น นายพัสวีร์ จะให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมั่นใจพยานและหลักฐานแน่นหนา สามารถเอาผิดพ่อเลี้ยงใจอำมหิตรายนี้ได้อย่างแน่นอน

ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดจับกุมดำเนินการ แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย เอาไว้ก่อนและจะมีการส่งตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาตลิ่งชัน ในช่วงสายวันเดียวกันนี้ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้อง หากการขยายผลมีหลักฐานสาวไปถึงก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน