ชายวัย 45 ปี คลั่งหนัก ถือปืนไล่ยิงเมีย ลูกร้องไห้ระงม จากติดยาบ้าและดื่มเหล้า พอเมาก็เกิดอาการหวาดระแวงว่าตนเองจะไปมีชู้ ห้ามคบหาไปมาหาสู่กับญาติพี่น้อง และข่มขู่จะฆ่าคนในครอบครัว
จากกรณีวันที่ 23 ก.ค. 65 เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ท่าบ่อ รับประสานจากศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ว่าเกิดเหตุชายใช้อาวุธปืนไล่ทำร้ายผู้หญิงบริเวณด้านหลังวัดสว่างธรรมาวาส เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย จึงประสาน พ.ต.อ.จำรัส จันแดง ผกก.สภ.ท่าบ่อ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจป้องกันปราบปราม เข้าตรวจสอบ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 4 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เข้าช่วยเหลือนางวรินดา โพธิ์งาม อายุ 50 ปี ไว้ได้ ส่วนชายที่ก่อเหตุทราบว่าเป็นสามีชื่อ นายบรรพต โพธิ์งาม อายุ 45 ปี ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้าน และล็อกประตูไว้ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังปิดล้อมไว้ และตะโกนให้ออกมาพบเจ้าหน้าที่
ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมประมาณ 20 นาที นายบรรพตจึงยอมเปิดประตูบ้าน ก่อนเดินถือปืนยาวอัดลมมามอบตัวกับตำรวจ ก่อนจะนำตัวไปตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืนอัดลมในบ้านอีก 1 กระบอก และพบเครื่องกระสุนปืนลูกซองพร้อมใช้จำนวน 3 นัด กระสุนลูกตะกั่วอีกจำนวนมาก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจค้นอย่างละเอียดเจ้าหน้าที่พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกางเกงยีนของนายบรรพตจำนวน 6 เม็ด นายบรรพตให้การยอมรับว่ายาบ้าที่พบเป็นของตัวเอง ซื้อมาจากวัยรุ่นใน ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ เจ้าหน้าที่จึงจับกุม และควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ สภ.ท่าบ่อ
ล่าสุดวันที่ 24 ก.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บ้านของผู้ก่อเหตุ หมู่ 4 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เจอกับนางวรินดา โพธิ์งาม อายุ 50 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองอยู่กินกับสามีมาประมาณ 22 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน โดยสามี มีอาชีพตระเวนขับรถแบ็กโฮรับจ้าง ที่ผ่านมาอยู่กินกันตามปกติ แต่ช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา สามีมีอาการเปลี่ยนไปจากติดยาบ้าและดื่มเหล้า พอเมาก็เกิดอาการหวาดระแวงว่าตนเองจะไปมีชู้ ห้ามคบหาไปมาหาสู่กับญาติพี่น้อง และข่มขู่จะฆ่าคนในครอบครัว
ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ต้องอดทนอยู่กับสามี เนื่องจากเป็นห่วงลูก แต่ก็ถูกสามีทำร้ายตบตีมาโดยตลอด หนักสุดคือเอาปืนมายิงใส่ เฉียดไปเฉียดมา หากไม่วิ่งหนี สามีก็จะเอาปืนยิงเข้าที่ร่างกายให้ตาย ทำแบบนี้เดือนละ 4-5 ครั้ง เมื่อวานนี้ชาวบ้านต้องโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ เพราะสามีคลั่งหนัก ทำลายข้าวของในบ้านถือปืนเดินตามถนน ตามหาตนเองที่วิ่งหนีไปหลบ ที่บ้านของเพื่อนบ้าน ตะโกนให้เจ้าของบ้าน เปิดประตูเพื่อจะดึงตนเองกลับไปทำร้ายที่บ้าน
ยืนยันว่าที่ผ่านมาเคยขอร้องให้สามีเลิกยาเสพติดอยู่หลายครั้ง แต่สามีก็ไม่ยอมฟัง แจ้งตำรวจมาคุมตัวไป ตำรวจก็ปล่อยกลับมาทุกครั้ง เพราะเอาเรื่องไม่ได้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของทางครอบครัวตลอดมายอมรับว่ายังโชคดีที่สามี ไม่เคยทำร้ายลูก และหลังจากนี้ก็คงต้องปรึกษากับทางครอบครัวว่า จะทำยังไงต่อไป หากสามีพ้นโทษออกมา ยืนยันตลอดเวลาที่ผ่านมายอมอดทนให้สามีทำร้าย และไม่เคยหนีไปไหนเพราะเป็นห่วงอนาคตลูก กลัวลูกจะมีปัญหาหากพ่อแม่ต้องแยกทางกัน
ทีมข่าวได้คลิปที่น้องเตย ลูกสาวคนเล็กของนายบรรพต ผู้ก่อเหตุ ถ่ายเอาไว้ในขณะที่พ่อตัวเองกำลังหลอนยา เดินไปหยิบปืน เอาไปใส่กระสุน ต่อหน้าลูกเพื่อจะไปไล่ยิงนางวรินดา ซึ่งคลิปดังกล่าวจะได้ยิงเสียงน้องเตยร้องไห้ พยายามห้ามพ่อให้เอาปืนไปเก็บ แต่นายบรรพตก็ไม่ยอมฟัง เดินถือปืนออกไปนอกบ้าน เพื่อจะไปล่าตัวนางวรินดา และอ้างว่าจะเอาปืนออกไปยิงนก เดินแบกปืนออกไป ก่อนน้องเตยจะตะโกน ร้องหาแม่ตัวเอง
ส่วนคลิปที่ 2 จะเป็นคลิปที่นายบรรพตยืนโวยวาย บอกให้น้องเตยเอาโทรศัพท์ไปให้แม่ แล้วก็ให้แม่แจ้งความมาจับในวันเกิดเหตุ ถ้าตำรวจไม่มาจับ จะฆ่าล้างโคตรให้ดู ส่วนอีกคลิปจะเป็นคลิปที่นายบรรพตตะโกนถามหาเมียตัวเองว่าอยู่ไหน ออกมาและตะโกนใช้เมียตัวเองให้ไปอยู่กับชู้ แล้วก็เดินวนหาโทรศัพท์ บอกว่าหากวันนี้ไม่ได้โทรศัพท์เมีย จะทุบหัวมันให้ตาย
น้องเตย วัย 17 ปี ลูกสาวของผู้ก่อเหตุ บอกกับแม่ว่า ปกติตนเองอยู่กับพ่อและแม่ที่บ้านทุกวัน ยอมรับว่าเห็นพ่อทำร้ายแม่อยู่บ่อยครั้ง เคยห้ามแล้วแต่พ่อก็ไม่ยอมฟัง หนักสุดคือ 3-4 วันที่ผ่านมา พ่อหลอนยาถือปืนไล่ยิงแม่ต่อหน้าต่อตา ห้ามก็ไม่ฟัง อ้างว่าเอาปืนออกไปยิงนก ตอนนั้นทั้งตกใจและเสียใจ ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนมองตัวสั่น
ยืนยันที่ผ่านมา ถึงพ่อจะเมายาทำร้ายแม่ แต่พ่อไม่เคยทำร้ายตนเองกับพี่สาว ส่วนเรื่องที่พ่อเสพยาไม่เคยรู้มาก่อน เพิ่งจะมารู้จากปากแม่ในวันที่เกิดเหตุ ส่วนเรื่องที่พ่อกล่าวหาว่าแม่มีชู้ คาดว่าเป็นเพราะแม่ไปนอนค้างบ้านยาย จนทำให้พ่อเข้าใจผิดว่าแม่ไปนอนค้างที่อื่น อธิบายให้พ่อฟังแล้วว่าวันนั้นที่แม่ไปบ้านยาย ตนเองไปด้วย แต่พ่อก็ไม่ยอมฟัง พอหลอนก็มักจะเอาเรื่องเก่าขึ้นมาพูดหาเรื่องแม่ วันนี้ได้เดินทางไปเยี่ยมพ่อที่โรงพักแล้ว แต่ตำรวจไม่อยู่ ได้แต่ซื้อข้าวไปฝากไว้ให้พ่อ เป็นไปได้อยากจะให้แม่ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เพราะหากพ่อพ้นโทษออกมา กลัวว่าพ่อจะก่อเหตุทำร้ายแม่อีกหรือไม่
ขอบคุณ อมรินทร์ทีวี