เด็กนักเรียน ป.2 เดินร้องไห้ตากฝน ก่อนคนใจดีอาสาพาไปส่งบ้าน ขณะที่ ผู้ปกครองบอก ไม่ติดใจเอาความครูผู้สอน

ไวรัลคนดู 7 ล้านภายใน 12 ชั่วโมง เมื่อเด็กประถมเดินกลับบ้านกลางถนนตัวเปียก ๆ คนเดียว เดินไปร้องไห้ไป พอถามเหตุผลจึงรู้เข้าใจ ผู้ปกครองบอก ไม่ติดใจเอาความครูผู้สอน เพราะน่าจะเกิดจากความผิดพลาด

 

 

 

จากกรณีผู้ใช้ TikTok ชื่อ popeye_4426 ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะที่ เด็กนักเรียนตัวน้อยคนหนึ่ง เดินอยู่ริมถนนท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก พร้อมเอากระเป๋ายกบังศีรษะเอาไว้ กระทั่งชาวเน็ตได้คอมเมนต์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก

 

 

 

ล่าสุด วันที่ 26 ส.ค. 2565 น.ส.วรัญญา ปัจจัยยา อายุ 18 ปี ผู้โพสต์คลิป และเป็นคนพาน้องไปส่งที่บ้าน ได้เล่าเหตุการณ์ว่า วันนั้นเวลาประมาณ 15.30 น. ตนกับเพื่อนรวม 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์จะไปดูหนังในตัวเมือง แต่เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงขับรถหลบฝนข้างทาง ซึ่งเป็นลักษณะเหมือนปั๊มน้ำมันร้าง มีที่กำบังฝน ระหว่างนั้นได้เห็นน้องกำลังเดินตากฝน พร้อมเอากระเป๋ามาบังฝน จึงเอาโทรศัพท์มาถ่ายคลิปเอาไว้แล้วเรียกน้องให้เข้ามาหลบฝนก่อน

 

 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตอนเห็นน้องครั้งแรกสงสารมาก เพราะน้องหนาวสั่น น้ำตาคลอ มีอาการหวาดผวา เมื่อซักถามทราบว่าน้องทำงานส่งครูไม่ทัน ครูจึงสั่งให้ทำให้เสร็จ แล้วรถที่เคยไปรับกลับไปก่อน จึงเอาเสื้อยีนส์ของเพื่อน คลุมตัวน้องรอฝนซา แล้วขับรถไปส่งที่บ้าน ซึ่งห่างจากโรงเรียนประมาณ 1.5 กม.

 

 

จากนั้น ผู้สื่อได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าเด็กในคลิปดังกล่าวคือ น้องโจ๊กเกอร์ อายุ 8 ปี นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขณะที่ แม่น้องโจ๊กเกอร์ วัย 50 ปี เล่าว่า ปกติลูกชายจะไปกลับรถรับส่งประจำ ซึ่งวันนั้นพอกลับจากทำงานมาถึงบ้านเห็นลูกชายอยู่บ้านตามปกติ

 

กระทั่งเพื่อนบ้านเอาคลิปมาให้ดู จึงสอบถามลูกชาย เล่าว่า ทำงานที่โรงเรียนไม่เสร็จ รถรับส่งกลับมาก่อน จึงตัดสินใจเดินกลับบ้าน ส่วนหนึ่งรู้สึกสงสาร เพราะลูกชายเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้อง คงจะเดินมาแบบผวามาตลอดทาง แต่โชคดีที่มีคนใจดีพามาส่งถึงบ้าน เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้ติดใจครูผู้สอน เพราะน่าจะเกิดจากความผิดพลาดของรถรับส่งนักเรียน เท่าที่ทราบคนขับรถรับส่งนักเรียนได้ออกตามหาลูกชายเหมือนกัน แต่ไม่พบ

 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดผู้สื่อข่าวเข้าได้ไปสอบถาม ผอ.โรงเรียนดังกล่าว แต่ ผอ.ยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลในตอนนี้

 

 

 

ขอบคุณ ข่าวสด/ไทยรัฐ