รวบนารา เครปกะเทย ปมโฆษณาขายอาหารเสริมผสมสารอันตราย

นารา เครปกะเทย งานเข้าอีก โดน ปคบ.บุกตะครุบฐานร่วมเครือข่าย หลอกขายอาหารเสริมผสมสารอันตราย อย.ชี้ เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ทำให้มีอาการประสาทหลอน หวาดระแวง หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ อ้างเป็นแค่อินฟลูเอนเซอร์โฆษณา ไม่เกี่ยวกับการผลิต

 

 

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ก.ย.2565 ที่ห้องประชุมชั้น2 อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รรท. รองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการอย. นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาอย. แถลงผลการจับกุมเครือข่ายผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผสมวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลโพโรลิดีน)

 

หลังเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ในพื้นที่ จ.ราชบุรี, จ.มหาสารคาม และจ.พระนครศรีอยุธยา สามารถจับกุม นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ “นารา เครปกะเทย” เน็ตไอดอลชื่อดัง นายเมธากร จันทวงศ์ อายุ 39 ปี น.ส.นิชกานต์ แก้วมีสี อายุ 28 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลโพโรลิดีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำทางการค้า

 

 

พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่จำหน่ายผ่านโซเชียลมาสุ่มตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จนพบว่ามีผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่ง มีส่วนผสมของสารวัตถุออกฤทธิ์ไดเฟนิลเมทิลไพโรลิดีน (desoxy-D2PM) ซึ่งจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข

 

 

เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนขยายผลจนทราบว่า บริษัท ของ น.ส.นิชกานต์ จ้างให้ โรงงานแห่งหนึ่ง ผลิตสินค้าดังกล่าวขึ้นมา ก่อนว่าจ้างให้นายอนิวัต หรือ นารา เป็นอินฟลูเอนเซอร์หลัก ในการโฆษณาและขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ส่วนเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายสินค้าจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของนายเมธากร ซึ่งเป็นญาติของ น.ส.นิชกานต์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนมีการจับกุมดังกล่าว

 

 

พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้หนักใจอะไร เนื่องจากมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ ขณะที่นายอนิวัต หรือ นารา แม้จะปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับขั้นตอนหรือกระบวนการผลิต เป็นเพียงอินฟลูเอ็นเซอร์ที่ถูกจ้างมาทำการโฆษณา หรือ การตลาดเท่านั้น แต่เมื่อผู้ต้องหาเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสังคมได้

 

 

นพ.สุรโชค กล่าวว่า สาร 2-ไดเฟนนิลเมทิลไพโรลิดีน เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ซึ่งช่วงหลังมักถูกตรวจพบว่า มีโรงงานผู้ผลิตลักลอบใส่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มมากขึ้นเหมือนไซบูทรามีน อันตรายจากการใช้สารตัวนี้จะทำให้มีอาการประสาทหลอน หวาดระแวง หรือมีพฤติกรรมรุนแรง ม่านตาขยาย หัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้ ส่วนไซบูทรามีน จะทำให้ท้องผูก ปากแห้ง นอนไม่หลับ คลื่นไส้ หลอดเลือดขยาย ความดันสูง หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น สับสนอ่อนแรง ปวดหัว เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

 

 

 

ขอบคุณ ข่าวสด/TOP NEWS