ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 37 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา มีการแข่งขันเพียงแค่คู่เดียวระหว่าง “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ ทีมที่ตกชั้นไปแล้ว เปิดรังแคร์โรว์ โรด พบกับ “เดอะ คราเรตส์” เบิร์นลีย์ ทีมอันดับ 10 ของตาราง
นอริช ได้โอกาสลุ้นประตูขึ้นนำจังๆ ครั้งแรกของเกมในจังหวะเล่นลูกเตะมุมนาทีที่ 19 โดยเป็น เบน ก็อดฟรีย์ พุ่งมาโขกเต็มศีรษะ แต่ นิค โป๊ป ยังใช้แขนซ้ายเซฟไว้ได้ ก่อนบอลลอยไปเข้าทาง อเล็กซานเดอร์ เท็ตเตย์ ซัดตูมแฉลบแนวรับเบิร์นลีย์ออกหลัง
เกมเดินทางเข้าสู่นาทีที่ 35 เจ้าบ้านมาเหลือผู้เล่น 10 คนในสนาม จากจังหวะเล่นนอกเกมของ เอมิเลียโน บูเอ็นเดีย ไปสับศอกใส่ต้นคอ แอชลีย์ เวสต์วูด จนล้มลงไปกองกับพื้น ผู้ตัดสิน เควิน เฟรนด์ ต้องวิ่งไปเช็กวีเอเอาร์ และกลับมาแจกใบแดงให้ทันที
ทัพนกขมิ้นดวงแตกอีกครั้ง เมื่อในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 โจซิป เดอร์มิช หัวหอกของทีมกลายเป็นผู้เล่นอีกคนที่ถูกเฟรนด์แจกใบแดงไล่ไปอาบน้ำก่อนเพื่อน หลังเข้าบอลอันตราย เปิดปุ่มใส่ ดไวท์ แม็คนีลล์ แบบไม่ยั้ง ทำให้ นอริช เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 9 คน และก็มาเสร็จเบิร์นลีย์ จนได้
เมื่อนาทีที่ 45 บวก 5 โยฮันน์ เบิร์ก กุ๊ดมุด์สสัน ครอสบอลจากทางซ้ายเข้าเขตโทษ สุดท้ายเป็น คริส วูด จักรยานอากาศแบบไม่เต็มวงเข้าไป กลายเป็นประตูที่ 13 ของเจ้าตัวในเกมลีกซีซั่นนี้
ครึ่งหลังนาที 80 ทัพเดอะ คราเรตส์ มาได้ลูกที่สองจากการแจกโชคของ เบน ก็อดฟรีย์ ที่สองจิตสองใจไม่รู้จะคืนหรือจับ ดันปล่อยบอลตกใส่หน้าแข้งเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง ทิม ครูล ที่เซฟมาทั้งเกมได้แต่งง
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม เบิร์นลีย์ บุกมาเอาชนะ นอริช ซิตี้ ด้วยสกอร์ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 54 คะแนน แซงอาร์เซนอลขึ้นไปเป็นที่ 9 แทน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด พร้อมกับยังได้ลุ้นพื้นที่ไปแข่งขันฟุตบอลยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: thairath
