จบลงไปแล้วอย่างเป็นทางการ และฉลองแชมป์ 2 สมัย อย่างชื่นมื่น สำหรับเชลซี ที่เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 คว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปครอง
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 8 แมนฯ ซิตี้ ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง พยายามจะตอกส้นยิงในเขตโทษ แต่ เอดูอาร์ด เมนดี นายด่านของเชลซี เซฟออกไปได้
จากนั้นนาทีที่ 10 โอกาสของเชลซี เมื่อ ไค ฮาเวิร์ตซ์ เปิดบอลเรียดจากฝั่งซ้ายเข้ากลางเขตโทษให้ ติโม แวร์เนอร์ แต่ดันยิงแป้กอย่างน่าเสียดาย
ถัดมา 4 นาที เชลซีได้ลุ้นอีกแล้ว เมสัน เมาท์ จ่ายบอลให้ ติโม แวร์เนอร์ ยิงในเขตโทษ แต่บอลตรงตัว เอแดร์สัน โกลของแมนฯ ซิตี้
นาทีที่ 15 เชลซีได้ลุ้นต่อเนื่อง เมสัน เมาท์ จ่ายบอลให้ ติโม แวร์เนอร์ กระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนซัดเน้นๆ บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย
ถึงนาทีที่ 28 แมนฯ ซิตี้ เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ผ่านบอลให้ ฟิล โฟเดน ได้ยิงจ่อๆ แต่ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ปรี่มาบล็อกไว้ได้ทัน
แต่ทว่านาทีที่ 42 กลายเป็น เชลซี ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ จ่ายบอลทะลุให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ หลุดเดี่ยวก่อนแตะหลบ เอแดร์สัน แล้วยิงเข้าไปง่ายๆ
จบครึ่งแรก เชลซี นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ พยายามบุกใส่ แต่นาทีที่ 72 กลายเป็น เชลซี ที่ได้ลุ้นสกอร์เพิ่ม จากจังหวะที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ คริสเตียน พูลิซิช ยิงหลุดเสาไกลไปนิดเดียว
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เชลซี ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาครองเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ
ขอบคุณ ไทยรัฐ/ผู้จัดการออนไลน์