“เทนนิส พาณิภัค”​ สร้างประวัติศาสตร์ใหม่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยซ้อน

การแข่งขันเทควันโด โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่แกรนด์ พาเลซ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อช่วงดึกวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา จอมเตะสาว “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์เก่า ที่ฝ่าด่านคู่แข่งทั้ง โมร็อคโก ในรอบ 16 คน, ซาอุดิอาระเบีย ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และ โครเอเชีย ในรอบรองชนะเลิศ ขึ้นสังเวียนดวลกับ ฉิง กั๋ว คู่ปรับจากจีน ที่เคยเจอกันมาในรอบชิงชนะเลิศ เอเชียนเกมส์ และมีประเด็นดราม่าเรื่องสกอร์

เปิดฉากยกแรก เป็น ฉิง กั๋ว ที่ชิงเตะเข้าหัวได้ก่อน นำ 3-0 ก่อนที่ในช่วง 30 วินาทีสุดท้าย พาณิภัค จะมาชิงจังหวะต่อยลำตัวและเตะหัว แซงนำ 4-3 ก่อนมา และเตะเข้าลำตัวช่วงปลายยก เอาชนะไปก่อน 6-3 ขึ้นนำ 1-0

มายกสอง ทั้งคู่ต่างดึงจังหวะ ไม่กล้าเดินเกมบุกเข้าใส่ เพราะต่างก็กลัวเพลี้ยงพล้ำ โดยสาวจีนดักต่อยได้ก่อน แต่พาณิภัค เอาคืน ไล่ตามเสมอ 1-1 อย่างไรก็ตาม พาณิภัค พลาดโดนเตะลำตัว ตาม 1–3 ช่วงปลายยก และก็ไล่ไม่ทัน แพ้ยกนี้ 2-3 ทำให้เสมอกัน 1-1 ยก ต้องดวลยกสาม เพื่อตัดสินหาผู้ชนะ

ยกตัดสิน เกมและบรรยากาศในสนามตึงเครียดสุดๆ เพราะทั้งคู่ต่างก็ไม่อยากพลาด โดยเป็น พาณิภัค ที่มาได้ 3 คะแนนในการเตะหัว จากจังหวะขอชาเลนจ์ถึง 2 หนในช่วง 29 วินาทีสุดท้าย และ 16 วินาทีสุดท้าย นำ 6-0 จากนั้นเจ้าตัวประคองเกม และคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ครบยก ชนะไป 6–2 ทำให้ พาณิภัค ชนะไป 2-1 ยก (6-3, 2-3, 6–2) ซึ่งหลังจบแมตช์ พาณิภัค ถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความกดดันและดีใจเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนจะวิ่งเข้ามาสวมกอดกับ “โค้ชเช” ชัชชัย เช ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเฮของกองเชียร์ชาวไทยที่ตามมาให้กำลังใจจำนวนมาก และวิ่งโบกสะบัดธงชาติไทยไปรอบสนามแข่งขัน

ชัยชนะแมตช์นี้ ทำให้ ”พาณิภัค“ ปิดฉากเส้นทางนักเทควันโดอย่างสมบูรณ์และยิ่งใหญ่ตามที่เคยประกาศไว้ว่าจะเลิกเล่นทันทีหลังจบศึกโอลิมปิกเกมส์ โดย “เทนนิส” กลายเป็นนักกีฬาไทยคนแรก ในประวัติศาสตร์ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ได้ 2 สมัย และยังเป็นคนแรกด้วย ที่ได้เหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ 3 สมัย

ด้านเหรียญทองแดง ทั้ง 2 เหรียญในรุ่นนี้ ตกเป็นของ โมบิน่า เนเมตซาเดห์ จอมเตะดาวรุ่งจากอิหร่าน ที่เอาชนะดุนยา อาลี อาบูลทาเลบ จาก ซาอุดิอาระเบีย 2-0 ยก (3-0, 4-2) กับ เลน่า สตอยโควิช จากโครเอเชีย ที่เอาชนะ เมอร์ฟ ดินเซล จากตุรกี 2-0 ยก (1-0, 5-3)

สำหรับนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองได้ จะได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติตามกฏเกณฑ์ด้วย โดยนักกีฬาสามารถเลือกรับได้ 2 แบบ หากรับแบบก้อนเดียว จะได้รับ 10 ล้านบาท แต่หากรับแบ่งแบ่งจ่าย จะได้รวม 12 ล้านบาท โดยจะแบ่งจ่าย 2 งวด ซึ่งงวดแรก จ่ายก่อน 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะแบ่งจ่ายในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งก็จะทำได้เพิ่มจากเดิม 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เหรียญทองจะได้รับ 12 ล้านบาท


ขอบคุณผู้สนับสนุนข้อมูลดีๆ จาก ALLSUREWIN

สนใจเข้ามาผ่อนคลายกับหลากหลายเกมส์มากมายให้เลือกเล่น ได้ที่ @ALLSUREWIN

เล่นที่นี่มีแต่วิน ต้องวินชัวร์ แอด @winsure

ใครปิด เราไม่ปิด สนใจเสี่ยงดวงติดต่อเราได้ที่ไลน์ @asw888 ตลอด 24 ชม.


เกมดี เกมมัน มากกว่า 1,000 เกม @gamewin


แค่คิดถึงเรา เงินก็อยู่ในบัญชี @asw168


เล่นได้ จ่ายชัวร์ @RT88