ผู้หญิงวัย 58 ปี ขณะยกยออยู่นั้น จู่ๆ นางถาวร ก็เดินลงไปในน้ำใต้เขื่อนฝายน้ำล้นที่น้ำกำลังไหลแรง ไม่พูดจาอะไร จมหายไปต่อหน้าต่อตา เวลาผ่านไปกว่า 7 วันแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววจะพบร่าง ยังไม่ทันได้ใช้เงิน 6 ล้าน ที่กำลังจะได้รับจากการเวรคืนที่ดิน
วันที่ 17 ก.ย.64 นายธีระพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีที่ นางถาวร ผลจันทร์ อายุ 58 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 บ้านท่าโพธิ์ ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ได้ออกจากบ้านไปหาปลากับเพื่อนบ้านที่ฝายน้ำล้นห้วยกำแพง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร และพลัดตกน้ำ ร่างถูกกระแสน้ำพัดลงน้ำห้วยที่มีจอกหูหนูสะสมทับซ้อนกันสูงกล่าว 5 เมตร เกิดเหตุตั้งแต่เย็นวันที่ 10 ก.ย.
โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายสนิท ขาวสอาด นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รอง ผวจ.ด้วยความเป็นห่วงใจ จึงสั่งการระดมหน่วยกู้ภัยต่างๆ ในจังหวัดบึงกาฬ ทางภาคราชการและภาคเอกชน เร่งค้นหาร่างผู้สูญหายให้พบ
แต่เวลาผ่านไปกว่า 7 วันแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววจะพบร่าง ส่วนหน่วยกู้ภัยที่มาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกค้นหาทั้งบนผิวน้ำและใต้น้ำ คือ 1.เทศบาลเมืองบึงกาฬ 2.สว่างศรีวิไลธรรมสถาน 3.กู้ภัยนทีธรรม 4.บึงโขงหลงฐานภูลังกา 4.บึงกาฬร่วมใจ 5.เทพารักษ์ 6.อบต.ดงบัง 7.หน่วย นรข.บึงกาฬ 8.สว่างเมธาธรรม อุดร นอกจากนี้ยังมีหน่วยกู้ภัยวีอาร์จาก อ.บ้านดัง จ.อุดรธานี และจากจังหวัดสกลนคร ได้มาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาค้นหาร่างผู้สูญหา
ส่วนแม่งานหลักสนับสนุนทั้งกำลังคน เรือและกำลังทรัพย์เป็นค่าน้ำมัน อาหารการกินบ้างคือเทศบาลเมืองบึงกาฬ โดยการนำของ นายราชันย์ วะนาพรม นายกเทศมนตรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ สนับสนุนเรือค้นหาโดยนายก อบจ.นางแว่นฟ้า ทองศรี ทีว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ มอบน้ำดื่ม ส่วนอาหารการกินอื่นๆ ก็มีพี่น้องประชาชนชาวบ้านท่าโพธิ์และใกล้เคียงร่วมกันบริจาคและมาร่วมกันทำอาหารรับประทาน
ด้าน นางสวรรค์ พินันท์ อายุ 76 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้ชวนกันมายกยอหาปลาที่ฝายน้ำล้นพัฒนาชนบทห้วยกำแพง ของหน่วยเร่งรัดพัฒนาชนบท หรือ รพช.เดิม ขณะยกยออยู่นั้น จู่ๆ นางถาวร ก็เดินลงไปในน้ำใต้เขื่อนฝายน้ำล้นที่น้ำกำลังไหลแรง ไม่พูดจาอะไร ตนก็ร้องเรียกว่าอย่าลงไป ลงไปทำไมมันอันตรายแกก็ไม่ฟัง แล้วน้ำก็ได้พัดลงไปใต้จอกแหนซึ่งหนากว่า 5 เมตร ความลึกของน้ำ 3 เมตรจมหายไปต่อหน้าต่อตา หลายคนที่หาปลาอยู่ใกล้ๆ ก็ช่วยไม่ทัน และไม่รู้จะช่วยกันยังไงเนื่องจากน้ำไหลแรงมาก
ส่วน นายบุญเพ็ง นาโควงค์ อายุ 56 ปี สามีของ นางถาวร เล่าว่า ช่วงเช้าของวันเกิดเหตุปกติภรรยาก็ออกไปหาปลาเช่นนี้ทุกวันจะกลับมาช่วงเที่ยง แต่วันนั้นผิดสังเกตจะค่ำแล้วยังไม่กลับบ้านจนกระทั่งมีคนโทรมาบอกว่าภรรยาของตนจมน้ำหายไป ก่อนเกิดเหตุร้าย 1 วันได้ฝันว่าได้เมียสาวประเภทสองอีกคน ขณะที่มีเพศสัมพันธ์กันมีกลิ่นเหม็นคาวจนอ๊วกแตก พอคืนถัดมาฝันว่ามีเครื่องบินมาจอดหน้าบ้านตนเอง แล้ว นางถาวร ก็ได้วิ่งกระโดดขึ้นไปบนเครื่องบินหายลับไปกับตาไม่รู้ไปไหน
ส่วนลางบอกเหตุหรือลางสังหรณ์ผู้สูญหายได้พูดเป็นนัยๆ ว่าสงสัยจะไม่ได้ใช้เงินล้านด้วยแล้ว ตนก็ถามไปว่าทำไมละ “กูสิหอบเงินหนี” ภรรยาตอบมาแบบนี้ ซึ่งความเป็นจริงพวกตนกำลังรอการโอนเงินเข้าบัญชี 5-6 ล้านบาทจากกรมชลประทานที่จะมาสร้างสำนักงานชลประทานจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นค่าเวนคืนที่ดินบนที่สวนยางที่อยู่ริมแม่น้ำโขง
ด้าน นายเชิดชัย เจริญดี รองปลัดเทศบาลเมืองบึงกาฬ กล่าวว่า ปัญหาอุปสรรคของหน่วยกู้ภัยที่มาร่วมปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายในครี้งนี้ คือกระแสน้ำที่ไหลแรงเชี่ยวกราก และจอกแหนที่ตายสะสมทับถมกันเป็นจำนวนมากสูงกว่า 5 เมตรกินเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ น้ำจึงไหลจากฝายน้ำล้นมุดเข้าไปใต้จอกหูหนูอย่างแรงเชี่ยวกราก
ตลอด 7 วันผ่านมาต้องใช้รถแบคโฮ 2 คันทั้งผลักส่งไปตามน้ำไหลและทั้งตักจอกขึ้นข้างบน โดยได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรจาก หจก.ไชยเลิศชินภัทร 1989 และบริษัท กิจสิริภัทร คอนสตรัคชั่น จำกัด โดยเทศบาลเมืองบึงกาฬได้สนับสนุนน้ำมันรถ คาดว่าพรุ่งนี้เป็นวันที่ 8 จอกก็จะหมดไปจากจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งก็จะทำให้หน่วยกู้ภัยปฏิบัติงานได้สะดวกขึ้น ทุกคนยังมีความหวังว่าจะพบร่างผู้สูญหายอย่างแน่นอน
ขอบคุณ ข่าวสด/nationtv/