ขาใหญ่เดนคุก ของขึ้นกลางวันแสกๆ ยิงอาก้าสนั่นหมู่บ้าน แค้นถูกสาวเท

ของขึ้นผ่ากลางเที่ยงวันยิงอาก้าสนั่นหมู่บ้าน แค้นถูกเทเตรียมไปยิงสาวคนรัก ตร.บุกรวบสิ้นฤทธิ์ทั้งคนทั้งปืน นำตัวแจ้งข้อหายิงปืน-ครอบครองอาวุธสงคราม อดีตนักโทษคดีฆ่าคนตาย ซื้อปืนเตรียมไปยิงหญิงสาวที่ตัวเองทุ่มเทซื้อรถซื้อบ้านให้ แต่ถูกสาวเท ทิ้งไปเลยแค้น อยู่ๆ เกิดของขึ้นกลางเที่ยง ยิงอาก้าสนั่นหมู่บ้าน ชาวบ้านเลยตำรวจบุกรวบสิ้นฤทธิ์ 

 

 

 

เหตุการณ์ใช้อาวุธสงครามยิงขึ้นห้าจนสร้างความตื่นตระหนกให้ชาวบ้านรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.45 น.ของวันที่ 29 มิถุนายน พันตำรวจเอกโชคดี ศรีเมือง ผู้กำกับการ สภ.ท่าศาลา พันตำรวจโทนรากร เอียดช่วย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.ท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโด ตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้าทำการตรวจสอบบ้านเลขที่ 55/5 หมู่ 5 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลาหลังจากได้รับแจ้งว่ามีคนใช้อาวุธปืนสงครามยิงขึ้นฟ้าบ่อยครั้ง จนสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านอย่างมาก

 

 

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูล พบว่าผู้ก่อเหตุนี้เป็นคนเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ติดตามตัวหลังจากพ้นโทษในคดีฆ่าผู้อื่น และยังมีการพัวพันยาเสพติดในพื้นที่ ได้รับการยืนยันว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบและจู่โจมเข้าไปในบ้านสามารถคุมตัวไว้ได้ ผู้ต้องหารายนี้คือนายชาญวิทย์ หรืออ๊อฟ ใจห้าว อายุ 30 ปี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนสงครามชนิด เอเค 47 หรือที่เรียกว่าอาก้า 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง จึงทำการตรวจยึดและสวมกุญแจมือคุมตัวนายชาญวิทย์ หรืออ๊อฟ ทันที

 

 

สำหรับนายชาญวิทย์ เพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าผู้อื่นมาได้ไม่นานและกลับมาวนเวียนอยู่ในพื้นที่ท่าศาลา พัวพันกับยาเสพติดรายสำคัญ ถูกติดตามมาอย่างต่อเนื่องแต่จะไปหลบอาศัยอยู่ที่อื่นในช่วงกลางวัน กลางคืนจะกลับมาบ้านหลังเกิดเหตุแต่ไม่บ่อยนักเนื่องจากรู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่กำลังติดตาม ก่อนที่จะจนมุมเมื่อกลางดึกที่ผ่านมานายชาญวิทย์ ได้กลับมาที่บ้านอีกครั้งจนกระทั่งในช่วงก่อนเที่ยงได้ใช้อาวุธปืนอาร์ก้ายิงขึ้นฟ้าหน้าบ้านเพื่อข่มขู่ชาวบ้านในย่านดังกล่าว จนกระทั่งมีการแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวไว้ได้

 

ขณะที่นายชาญวิทย์ สารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าได้ซื้ออาวุธปืนอาก้ามาจากเครือข่ายยาเสพติดรายหนึ่งในจังหวัดชุมพร ราคากระบอกละ 4 หมื่นบาท ขณะเกิดเหตุเกิดความเครียดจึงได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเข้าใจว่าไม่มีใครกล้าแจ้งตำรวจ ส่วนอาวุธปืนนั้นเตรียมที่จะไปก่อเหตุยิงหญิงรายหนึ่งที่ตนเองได้ไปติดพันหลังจากพ้นโทษ ได้ทุ่มเทเงินไปสร้างบ้านซื้อรถให้แต่กลับถูกบอกเลิกไม่ยอมรับโทรศัพท์ ตัดขาดการติดต่อ จึงแค้น

 

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายชาญวิทย์ ไปตรวจหาสารเสพติดและขยายผลในเรื่องของยาเสพติดและที่มาของอาวุธปืนเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหายิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ/สยามรัฐ