จีนลบข้อมูลวิจัย หลังห้าม WHO เข้าตรวจสอบต้นตอโรค

สื่อดังอังกฤษเผย ข้อมูลสำคัญในงานศึกษาวิจัยในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ที่สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน กว่า 300 เรื่อง ที่เคยเผยแพร่ทางออนไลน์นั้น ได้ถูกลบทิ้งไปแล้ว หลังจีนไม่อนุญาตให้ WHO เข้าตรวจสอบต้นตอของโรคโควิด-19

 

เมื่อ 10 มกราคม 2564 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยว่า รัฐบาลจีนกำลังเผชิญข้อกล่าวหาปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดของชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 อีก จากการตรวจสอบของ Mail On Sunday พบว่า ข้อมูลสำคัญในงานศึกษาวิจัยในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ที่สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน กว่า 300 เรื่อง ที่เคยเผยแพร่ทางออนไลน์นั้น ได้ถูกลบทิ้งไปแล้ว ในขณะที่สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นได้ตกเป็นเป้าโดนเพ่งเล็งอาจเป็นต้นตอของเชื้อโควิด-19 ที่ระบาดใหญ่ทั่วโลก ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเกือบ 90 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 1.97 ล้านศพ



Mail On Sunday ชี้ว่า งานวิจัยสำคัญกว่า 300 เรื่อง รวมทั้งการตรวจสอบเชื้อโรคจำนวนมากที่สามารถติดต่อได้จากสัตว์สู่คน ซึ่งมูลนิธิวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติของจีน (NSFC) ได้เคยเผยแพร่ทางออนไลน์นั้น ปรากฏว่าตอนนี้ไม่มีแล้ว โดยงานวิจัยที่ไม่พบในออนไลน์ ยังรวมทั้งงานวิจัยของ ดร.สือ เจิ้งลี่ นักไวรัสวิทยาหญิงชื่อดังของจีน ประจำสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในนักวิจัยชั้นนำของโลกที่ศึกษาด้านเชื้อไวรัสโคโรนาที่มีต้นกำเนิดในค้างคาว จนได้รับฉายา ‘Bat woman’

 

 ดร.สือ เจิ้งลี่ นักไวรัสวิทยาหญิงชื่อดังของจีน ประจำสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น

 
 
สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน




ขอบคุณ ไทยรัฐ