ตบกันสนั่นระหว่างลูกบ้านและ อสม. เหตุเพราะ อสม. ขอให้ไปรักษาและกักตัว แต่เจ้าตัวไม่ยอมไปรักษาตัวที่ รพ.
วันนี้ 26 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 ได้มีการโพสต์คลิปวีดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า ตบตี อสม. เป็นโควิดแต่ไม่ยอมกักตัว ณ.หมู่บ้านแห่งนึงในจังหวัดชัยนาท สาเหตุเพียงแค่ อสม.ขอให้ไปรักษาและกักตัว อสม.แค่ให้คุณกักตัว รับผิดชอบต่อสังคม แต่คุณก็ทำตัวให้เป็นภาระสังคม รักษาเดี๋ยวก็หาย แต่คุณหนีแจ้งเตือนชาวบ้านในหมู่บ้าน ดูแลตัวเองกันนะคะ เนื่องจากเขาไม่ยอมไปรักษาตัวที่ รพ. จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์เป็นอย่างมากถึงตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่ยอมกักตัว และทำร้ายเจ้าหน้าที่ อสม.
ภายหลังจากเกิดเรื่อง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่งใน ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นบ้านหลังที่เกิดเหตุ และได้พบกับนายนิติรุจน์ นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำออก และเจ้าหน้าที่ อสม. ได้ทำการพูดคุยสอบถามเหตุการณ์กับ น.ส.อร (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมทั้งยังได้ให้เจ้าหน้าที่ อสม.ทำการตรวจ ATK กับ น.ส.อร เนื่องจาก ตัวผู้ก่อเหตุเองยังไม่ได้ทำการตรวจ ซึ่งจากการตรวจพบว่า น.ส.อร ติดเชื้อโควิด-19 ทางนายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำ จึงได้ให้ น.ส.อร และลูก อีก 2 คน กักตัวอยู่ในบ้าน
จากการสอบถามผู้ก่อเหตุและลูกสาว เล่าว่า อสม.เป็นคนทำร้ายร่างกายก่อน เมื่อวานเขามาถึงเอาเชือกปอสีแดงมาขึงหน้าบ้าน แม่เลยออกมาถามว่ามาขึงทำไม ตอนนั้นแม่ยังไม่ได้ตรวจ คิดว่าตัวเองไม่ได้เป็น เพราะไม่ได้อยู่รวมกัน และถามว่าถ้าให้กักตัวอยู่บ้านจะเอาถุงยังชีพมาให้เหรอ เพราะรอบที่แล้วหนูกักตัวอยู่ที่บ้านเขาก็ไม่เอาถุงยังชีพมาให้
ทีนี้แม่จึงออกไปคุย เขาเอากล้องโทรศัพท์มาถ่ายหนูจึงถ่ายบ้าง พอดีมีหมากระเป๋าออกมาวิ่ง เป็นหมาของแม่ แม่เลยอุ้มมันแล้วแม่จะเดินเข้าบ้าน ทีนี้ อสม.คนนั้นเขาเดินตามแล้วเอากล้องมาจ่อหน้าแม่ แม่กลัวหมาหลุดมือจึงเอาหมากระเป๋าจ่อกล้องเขา ไม่ได้จ่อตัวเขา ทีนี้เขาก็โมโห เขาจึงถีบแม่ล้มใส่ประตู เขาเป็นคนเริ่มก่อนแม่เขาก็โมโหเลยสวนกลับ แต่ในเฟซบุ๊กเห็นว่าสามีเขามาต่อว่าแบบนักเลงมาก แล้วทำไมเขาไม่มาเคลียร์เอง แม่จึงไปแจ้งความอยากให้เขามาขอโทษ เราเป็นประชาชน
ขณะที่ทางด้าน อสม.ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้ อสม. คนที่ถูกทำร้ายคือพี่นา อายุ 42 ปี ซึ่งก่อนเกิดเหตุพี่นา เขาชวนไปขึงเชือกที่บ้านผู้ติดเชื้อเพราะไม่ยอมไปรักษาที่โรงพยาบาล จึงจะไปขึงเชือกแดงป้องกันไว้ก่อนเผื่อใครไปใครมาจะได้รู้ว่าบ้านนี้ติดเชื้อโควิด จะได้เอาข้าวเอาน้ำมาส่งให้เพื่อป้องกันไม่ให้ออกจากบ้าน แล้วเขาก็เดินไปขึงเชือกซึ่งอยู่อีกฝั่งของถนน ผู้ติดเชื้อเขาก็ออกมาด่า
พอขึงเชือกเสร็จผู้ติดเชื้อได้เอาหมามาจ่อที่หน้าพี่นา พี่นาไม่รู้จะทำอย่างไรจึงเอาเท้าถีบผู้ติดเชื้อจนล้มลง จากนั้นก็ตะลุมบอนกัน ดึงหัวกระชากกัน พอดีมีผู้ชายเดินผ่านมา จึงเรียกผู้ชายคนนั้นมาช่วยให้แยกหน่อยแต่แยกไม่ไหว เราก็ดึงคนของเราและเซฟตัวเองกลัวจะติดเชื้อกับเขาด้วย เขาไม่ได้ตรวจไม่แน่ใจว่าเป็นหรือไม่เป็น เราไม่ได้ไปด่าว่าเขาเพียงเข้าไปขึงเชือกเท่านั้น เดี๋ยวทางเทศบาลจัดอาหารมาส่งให้ จริงๆ รถโรงพยาบาลมารอรับอยู่แล้วแต่เขาไม่ยอมไปเพราะแม่ผู้ติดเชื้อไม่ยอมให้ลูกเขาไป จะหาว่า อสม. ไม่ดูแลจึงเอาเชือกไปขึงเสร็จแล้วกำลังจะกลับแต่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ก็ตกใจมากไม่รู้จะช่วยอย่างไร ส่วน อสม.ที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ และมีอาการปวดแขน ปวดหัวข้างที่ถูกตบจากการกระชากผม ซึ่งตอนนี้ตัวผู้บาดเจ็บและตนได้เข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพยา ส่วนเรื่องคดีความนั้นก็อยู่ที่ตัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ ว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่
ทางด้าน นายนิติรุจน์ มุขเฉลิมวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำตก เปิดเผยว่า เรื่องที่มีปัญหาของ อสม.เมื่อวานคือ ทราบว่า อสม.เข้าเอาเชือกไปกั้นบ้านผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อกักตัวไม่ให้ออกจากบ้าน ปรากฏว่าผู้ป่วยไม่ยอมจึงเกิดปัญหา ตามคลิปที่เผยแพร่ออกไป เพราะในบ้านมีผู้อาศัยอยู่ 3 คน
วันนี้ตรวจซ้ำอีกครั้งพบว่าติดเชื้อทั้ง 3 คน ได้แนะนำให้เขากักตัวอยู่ในบ้าน วันนี้ได้ไปพูดคุยแล้วยอมอยู่ในบ้านแล้ว เดี๋ยวทางเทศบาลจะส่งข้าวส่งน้ำให้ เรื่องนี้แม้ว่าจะมีการไปแจ้งความแล้วแต่สามารถพูดคุยตกลงกันได้
นายนิติรุจน์ มุขเฉลิมวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำตก เข้าพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเดินทางไปยังบ้านหลังที่มีผู้ป่วยโควิด ซึ่งเป็นลูกสาว อายุ 14 ปี ของนางอร สาวมือตบในคลิป เห็นว่าเป็นผู้ป่วยเสี่ยงสูง จึงทำการตรวจ ATK ด้วยตนเองเพราะ นางอร ไม่เชื่อใจใครนอกจาก นายกฯ ผลตรวจออกมา นางอร ติดเชื้อโควิด-19 จึงสั่งการให้อสม. ปฏิบัติตามหลักของการดูแลผู้ป่วย
ขอบคุณ ch7.com/ไทยรัฐ/ข่าวสด