วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 มีหญิงท่านหนึ่ง ออกมาเปิดเผยถึงพฤติกรรมของนักข่าวชายจากช่อง The Reporters ที่เคยข่มขืนเธอเมื่อ 4 ปีก่อน เหตุการณ์การในครั้งนั้นฝั่งใจเธอมาถึงทุกวันนี้ จนเธอเกือบฆ่าตัวตายมาแล้ว และจนถึงปัจจุบันยังไม่เคยได้รับคำขอโทษอย่างจริงใจจากอีกฝ่ายเลย โดยข้อความระบุว่า
โกรธจนตัวสั่น โกรธมาก อยากรู้มากว่าเคยรู้สึกผิดบ้างไหม เคยรู้สึกอยากจะยอมรับการกระทำของตัวเองบ้างไหม เคยที่จะออกมาพูดในฐานะคนกระทำบ้างไหม เคยไหมที่จะรู้สึกว่าคนที่โดนคุณกระทำจะใช้ชีวิตต่อยังไง
อาจฟังดูนางร้าย ใช้อารมณ์ก็ได้นะ แต่ฉันไม่เคยได้รับความจริงใจ ความตั้งใจ ความรู้สึกผิดอะไรจากคนแบบเขาเลย มากสุดก็แค่บังเอิญเจอร้านเหล้า แล้วก็ขอโทษที่ทำกับฉันวันนั้น มันเหมือนคนบังเอิญเจอ อ้าว หวัดดี แต่เปลี่ยนเป็น อ้าวขอโทษที่ข่มขืนมึงนะวันนั้น
เฮ้ย เอาจริงดิ เอาจริงๆดิ ถ้าจะบอกว่าเจ้าคิดเจ้าแค้นก็ได้ แต่คนแบบเขาไม่ควรจะมีหน้ามีตาอยู่ในวงการสื่อมวลชนด้วยซ้ำ ถ้ายังชำระเรื่องที่ตัวเองทำไม่ได้
และที่พูดนี่ไม่ได้ต้องการความสงสารอะไรเลยนะ ต้องการการยอมรับและขอโทษออกสื่อบ้าง เราอยากให้คนที่ชื่นชมเขารู้บ้างว่า เขาทำอะไรกับเราไว้ เราไม่อาย เพราะเราไม่ผิด และตอนนี้เราพร้อมแลก เราโกรธที่คุณพูดแต่เรื่องดีดีของตัวเอง พี่แยมเขารู้ไหมว่าสำนักข่าวเค้ามีนักข่มขืนเป็นผู้สื่อข่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
จากกรณีที่มีการกล่าวถึงผม ว่าเคยกระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับเพื่อนผู้หญิงนั้น ผมใช้เวลาทบทวนเรื่องนี้อย่างละเอียด ถี่ถ้วน เพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบบานปลาย ผมเสียใจ เมื่อทราบว่า เพื่อนเกิดผลกระทบทางจิตใจมาโดยตลอด เหตุเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมคงไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดในที่สาธารณะได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ผมเอง เข้าใจทุกอย่างผิดไป ที่ผ่านมา ผมไม่เคยมีโอกาสได้ขอโทษอย่างตรงไปตรงมา วันนี้จึงอยากขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ขอโทษด้วยความจริงใจครับ
ด้าน ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว The Reporters ได้โพสต์ว่า
ตามที่มีการตั้งคำถาม เกี่ยวกับพฤติกรรมในอดีต ของผู้สื่อข่าว The Reporters เราไม่ได้ละเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น และได้สอบถามข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายแล้ว โดยเฉพาะน้องผู้หญิง ที่เข้าใจในความรู้สึกและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้จะเป็นเรื่องในอดีต ก่อนการเข้ามาทำงานกับ The Reporters และยังไม่ได้มีการพิสูจน์กันในทางกฎหมาย แต่เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบทางจริยธรรม และเปิดโอกาสให้คู่กรณีหาแนวทางในการจัดการปัญหา เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
จึงขอประกาศพักงานผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว เบื้องต้นเป็นเวลา 1 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน เป็นต้นไป
ดังนั้นเรื่องราวดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นเดือดในโลกออนไลน์ทันที และหลายคนต่างสงสัยว่าทำไมปล่อยให้เรื่องเงียบ เก็บไว้ได้อย่างไร
ขอบคุณรูปภาพประกอบ