ลูกชายนายทหารเรือ สัตหีบ”ปอดติดเชื้อ” ตายกะทันหัน 2 รายซ้อน หมอยันไม่เป็น โควิด19

วันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา น.อ.สายัณห์ กิจบำรุง ประธานรุ่นนักเรียนจ่าทหารเรือ 19 (นย.21) เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ นายบุลากร หุตะเจริญ อายุ 35 ปี บุตรชายของ น.ท.ประกิต หุตะเจริญ และ นางรุ่งฤดี หุตะเจริญ ที่เสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 ส.ค.63 เวลา 18.40 น. ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดย รพ.ชลบุรี ระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากปอดติดเชื้อ

น.ท.ประกิต หุตะเจริญ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งว่าลูกชายป่วยก็รู้สึกตกใจ เนื่องจากลูกชายไม่เคยเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลมาก่อนเลย โดยป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 10 ส.ค.63 และเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ช่วงเวลา 18.00 น. ได้รับแจ้งว่าลูกชายได้เสียชีวิตแล้ว โดยแพทย์ลงความเห็นในใบมรณบัตรว่า เสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อ แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ส.ค.63 ลูกชายได้โทรศัพท์บอกว่าป่วยอยู่โรงพยาบาลชลบุรี และได้คุยกับแพทย์ที่รักษาแจ้งว่าลูกชายมีอาการไม่ค่อยดี ปอดติดเชื้อแบคทีเรีย โดยแพทย์ได้แจ้งให้ทราบอาการป่วยของลูกชายเป็นระยะ และมาทราบอีกครั้งว่าลูกเสียชีวิตแล้ว

“ลูกชายไม่เคยมีอาการเจ็บป่วยมาก่อนหน้านี้เลย เพียงแต่มีภูมิแพ้และมีน้ำหนักมาก ลูกชายทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ กทม. และเคยเดินทางไปทำธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือน ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา จากนั้นไม่ได้เจอกันเลย โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นการเสียชีวิตที่เร็วมาก”

ด้าน น.ต.ศรายุทธ พิณเพราะ เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนจ่าทหารเรือ 19 กล่าวว่า ลูกชายตนเอง อายุ 39 ปี ก็ป่วยในลักษณะคล้ายๆ กันนี้ แพทย์วินิจฉัยว่าปอดหายไป 1 ข้าง อีกข้างปอดระเบิด รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลในพื้นที่สัตหีบ ซึ่งเป็นอาการป่วยที่รวดเร็วมาก

ล่าสุด ทราบว่า บุตรชายของ น.ต.ศรายุทธ พิณเพราะ ได้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 ส.ค.
จากการสอบถามถึงอาการป่วยทั้งสองกรณีดังกล่าวไปทางสาธารณสุขอำเภอสัตหีบ เปิดเผยว่ายังไม่ทราบถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของทั้งสองรายในพื้นที่สัตหีบ อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้ทุกคนการ์ดอย่าตก อย่าประมาท คงยังต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ กินร้อนช้อนตนเอง และหากมีอาการไข้ที่ผิดปกติ ควรแจ้งและเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจอาการ

 

 

ขอบคุณข่าวจากไทยรัฐ