จับได้แล้ว มือฆ่าโหดยกครัว 3 พ่อแม่ลูกชาวลาว คนงานของฟาร์มเลี้ยงหมู ที่แท้เป็นลูกเจ้าของฟาร์มหมู เผยบาดหมางกันมานาน ลงมือฆ่าผัวเมียแต่เด็กเกาะหลังแม่เลยโดนด้วย
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 2 เม.ย. 64 พ.ต.ท.ไพฑูรย์ อินทร์คง ร้อยเวร สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต 3 ราย ในบ้านพักคนงานฟาร์มเลี้ยงหมูสง่าพรฟาร์ม เลขที่ 71/1 หมู่ 12 บ้านควนทราย ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก. พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.(หญิง)เนตรทราย วงศ์พรต รอง ผกก.ศพฐ.8 ร.ต.อ.คุณวุฒิ ตะเภาน้อย ร้อยเวร ตรวจที่เกิดเหตุ ศพฐ.8 กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุเป็นฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดกลาง และที่บ้านพักคนงาน พบผู้เสียชีวิต 3 ราย ทราบชื่อคือ นายขันตะลี จันดี อายุ 24 ปี มีบาดแผลถูกของมีคมไม่ทราบชนิด บริเวณใบหน้า และศีรษะ 8 แผลเป็นแผลฉกรรจ์ ข้อมือด้านซ้ายขาด นางทองบาง ศรีเงาะ อายุ 24 ปี มีบาดแผลถูกของมีคมไม่ทราบชนิด บริเวณศีรษะและใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ ข้อมือได้ขวาขาดและ ด.ช.บิ๊ก อายุ 5 ขวบ มีบาดแผลถูกของมีคม บริเวณศีรษะและท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์ทั้ง 3 รายเป็นพ่อแม่ลูกชาวลาว เบื้องต้นทราบว่า ทั้ง 3 คน เป็นคนงานของฟาร์มเลี้ยงหมูที่เกิดเหตุ และอาศัยอยู่ในฟาร์มหมูดังกล่าว
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ มีเพียงรอยรองเท้าผ้าใบ เบอร์ 41-42 ยี่ห้อดังบนพื้นบ้าน โดยคาดว่าช่วงเกิดเหตุระหว่างเวลา 18.00-20.00 น.ขณะที่กลุ่มผู้ตายกำลังนั่งล้อมวงรับประทานอาหารเย็น คนร้ายได้บุกเข้ามาในบ้านและใช้มีดสปาต้าฟันเข้าที่ใบหน้าของ 2 ผัวเมีย คนละ 1 ครั้ง ซึ่งทั้ง 2 อาจยกมือขึ้นป้องกัน จนทำให้ข้อมมือขาดกระเด็นไป ส่วน ด.ช.บิ๊ก เมื่อเห็นเหตุการณ์ได้ลุกขึ้นวิ่งหนี จึงถูกคนร้ายตามไปใช้มีดสปาต้าฟันเข้าที่แผ่นหลัง 1 ครั้ง จนล้มลง แต่เพื่อความแน่ใจคนร้ายจึงฟันซ้ำเข้าที่ท้ายทอยอีก 1 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากสวิซไฟฟ้า และลูกปิดจับประตู รวมถึงตัวอย่างดินจากรอยรองเท้าผ้าใบ เพื่อใช้เป็นหลักฐานติดตามจับกุมคนร้าย
ล่าสุด (2 เม.ย.64) เมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายสุทธิศักดิ์ อายุ 29 ปี ลูกชายเจ้าของฟาร์มหมู หลังรับสารภาพ ว่าเป็นคนลงมือสังหาร อ้างว่าเหตุจากคนตายขัดแย้งกับตนเองบ่อยครั้ง เนื่องจากนายขันทะเลคิดว่าตนไปชอบ น.ส.ทองบาง จากนั้นนายขันทะเลก็เริ่มมีอาการไม่ค่อยเชื่อฟัง จึงบาดหมางกันมาเรื่อยๆ จนเกิดเหตุลงมือสังหารตอนเวลาประมาณ 15.00 น.ช่วงที่ไม่มีใครอยู่ โดยได้ใช้มีดพร้าฟันนายขันทะเล สามีก่อน และได้ฟัน น.ส.ทองบาง ภรรยา อีกคนโดยมี ด.ช.คำสว่าง เกาะหลังอยู่จึงพร้าฟันจนเสียชีวิตไปอีกราย
หลังก่อเหตุหนีไป อาบน้ำที่บ้านย่า และทิ้งเสื้อผ้ารองเท้าชุดที่ใส่ก่อเหตุไปทิ้งบริเวณริมถนนสายเซาท์เทิร์น ก่อนที่จะกลับมาบ้านและได้มารับภรรยาไปร่วมงานศพญาติและกลับเข้ามาช่วงประมาณ 01.00 น. จนพ่อของผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มเกิดเหตุจะเข้าไปเจอศพและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว
นายทองพัน ศรีเงาะ อายุ 42 ปี พี่ชายผู้หญิงที่เสียชีวิต รู้สึกโล่งใจที่จับคนร้ายได้เร็ว และก็รู้สึกตกใจและเสียใจ ที่นายหัวเป็นคนลงมือฆ่าน้อง เพราะตัวเองช่วยทำงานกับนายหัวคนนี้มานาน 7 ปี และเป็นคนชวนน้องให้มาทำงานที่นี่ ถ้ารู้ว่าน้องต้องมาเสียชีวิตอย่างนี้คงไม่ให้มา หลังจากนี้คงไม่อยู่แล้ว ขอกลับบ้านที่จำปาสัก ส่วนศพขอปรึกษากับญาติของทางน้องเขยก่อน ค่อยตัดสินใจนำศพกลับบ้านหรือทำศพที่นี่
ขอบคุณ ไทยรัฐ/Sanook.com/ผู้จัดการ