รวบไอ้หื่นปีน ห้องน้ำปั๊ม ถ้ำมองสาว ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ตนไม่ได้ไปแจ้งความ เนื่องจากขณะที่แฟนหนุ่มของตนนั้นได้ไล่จับกุมตัวคนร้าย พบตำรวจ 1 นาย แต่เขากลับไม่ช่วย และได้โทรแจ้งไปที่โรงพักก็ถูกปฏิเสธบอกว่าไม่ว่าง
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวโพสต์ข้อความ ภายหลังที่แฟนสาวเจอชายโรคจิตแอบถ้ำมองในห้องน้ำ โดยแอบอยู่ในห้องน้ำหญิงอีกห้องหนึ่ง เหตุเกิดบริเวณปั๊มน้ำมัน ย่านถนนสุขสวัสดิ์
วันที่ 27 มี.ค. 2564 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ปั๊มน้ำมันย่านถนนสุขสวัสดิ์ ห้องน้ำหญิง 2 ห้อง ที่มีกำแพงกั้นสูง 2 เมตร มีทางเข้าออกทางเดียว ตรงบริเวณกำแพงกั้นยังคงมีรอยคราบนิ้วมือของคนร้าย
น.ส.ปราณี อำพล อายุ 69 ปี พนักงานทำความสะอาด เผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ เวลา 06.30 น. ตนได้เดินทางมาทำงาน จากนั้นได้นำแก้วน้ำมาล้างทำความสะอาด บริเวณหน้าห้องน้ำหญิง ซึ่งไม่ได้เข้าไปภายในห้องน้ำ แต่เห็นว่าห้องน้ำด้านในสุดปิดประตูอยู่ และมีเสียงราดน้ำลงพื้น ขณะนั้นไม่ได้เอะใจ คิดเพียงว่าน่าจะเป็นภรรยาของคนขับรถ 6 ล้อที่มาจอดอาบน้ำ ต่อมาตนเดินไปทำความสะอาดจุดอื่น พอกลับมาที่ห้องน้ำยังคงได้ยินเสียงราดน้ำลงพื้น ประตูยังคงปิดอยู่ตามเดิม
ตนเดินผ่านไปมาประมาณ 5 รอบ ก็ยังพบสถานการณ์เช่นเดิม ทำให้ตนเอะใจ คิดว่าบุคคลที่อยู่ในห้องน้ำคาดว่าน่าจะเป็นคนสติไม่ดี จึงบอกกับพนักงานในปั๊มและพนักงานอู่ซ่อมรถว่าให้ระมัดระวังตัวเอง ตลอดช่วงเช้าตรู่ก็มีผู้หญิงจำนวนหลายคนที่แวะเข้ามาที่ห้องน้ำ แต่ไม่มีใครโวยวาย คาดว่าน่าจะไม่รู้ตัว
กระทั่งเวลา 08.00 น. หญิงผู้เสียหายได้มาจอดรถแล้วเข้าห้องน้ำ เกิดการโวยวาย จากนั้นแฟนหนุ่มของผู้เสียหายเดินเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับถีบประตูห้องน้ำ ลากตัวชายคนร้ายออกมา และสอบถามว่าทำไมเข้าไปห้องหญิง ชายคนร้ายอ้างว่ามาสระผมอยู่ในห้องน้ำ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ไม่ได้มีเจตนามาแอบถ้ำมองผู้หญิง ต่อมามีชายพลเมืองดีขี่รถเข้ามาปรี่เข้าไปชกต่อยชายคนร้าย ทำให้ชายคนร้ายหลบหนีไป
นอกจากนี้ ตนไม่ทราบว่าชายคนร้ายเป็นใครมาจากไหน และไม่มั่นใจว่าเป็นคนละแวกแถวนี้หรือไม่ ที่ผ่านมาตนทำงานอยู่ในปั๊ม 2 ปีแล้ว ไม่เคยพบเจอคนร้าย แต่อาจจะมีคนเร่ร่อนมาเข้าห้องน้ำ ซึ่งไม่ได้มีพฤติกรรมโรคจิตเช่นนี้ อย่างไรก็ตามแล้ว ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมเพื่อดำเนินคดี เนื่องจากตนกลัวว่าชายคนร้ายจะกลับมาก่อนเหตุซ้ำอีก
น.ส.ศศิวิมล ปุริธรรมเม อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระหว่างทางที่ตนกำลังจะไปเที่ยวกับครอบครัว รู้สึกปวดท้อง จึงบอกให้แฟนหนุ่มแวะปั๊มน้ำมัน ขณะเข้าห้องน้ำ ด้านข้างของตนนั้นได้ยินเสียงคล้ายคนกำลังอาบน้ำ จึงไม่ได้เอะใจ ต่อมาสักพักได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น แล้วหน้าจอมือถือเป็นเงาสะท้อนคล้ายกับคนแอบปีนมองดู ได้แหงนขึ้นมองดูเห็นเพียงมือ จึงได้สาดน้ำไป แล้วสอบถามว่าใคร แต่คนร้ายไม่ได้ตอบกลับ ตนจึงรีบออกมาจากห้องน้ำ และได้ไปบอกกับแฟนหนุ่มว่ามีคนแอบมองขณะเข้าห้องน้ำ จากนั้นแฟนหนุ่มของตนได้เข้าไปในห้องน้ำพยายามสอบถาม โดยคนร้ายแปลงเสียงผู้หญิง อ้างว่าสระผมอยู่
ด้วยความที่แฟนหนุ่มตนเสียงดังกดดัน ทำให้คนร้ายเปิดประตูออกมา และได้ยกมือไหว้ขอโทษ อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจแอบดู ก่อนจะยอมให้ตำรวจจับกุม แต่ดันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มีคนมาต่อยทำให้คนร้ายหลบหนีไป แฟนหนุ่มของตนรีบวิ่งตามไป แต่ไม่สามารถจับกุมตัวได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตกใจ เพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมาเจอกับตัวเอง
อย่างไรก็ตามแล้ว ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ตนไม่ได้ไปแจ้งความ เนื่องจากขณะที่แฟนหนุ่มของตนนั้นได้ไล่จับกุมตัวคนร้าย พบตำรวจ 1 นาย แต่เขากลับไม่ช่วย และได้โทรแจ้งไปที่โรงพักก็ถูกปฏิเสธบอกว่าไม่ว่าง สำหรับสาเหตุที่ตนนำคลิปวิดีโอเผยแพร่ เพื่ออยากเตือนให้กับผู้หญิงว่าเข้าห้องน้ำควรระมัดระวัง และต่อไปนี้ตนจะระวังตัวและให้แฟนหนุ่มไปส่งที่หน้าห้องน้ำ ทั้งนี้ ตนอยากวอนให้คนร้ายเลิกพฤติกรรมดังกล่าว กลับตัวกลับใจเป็นคนดีและไปรักษาตัว
นายอรรถพล เรืองสวน อายุ 28 ปี แฟนของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ แฟนสาวของตนได้รีบออกมาแจ้งว่ามีโรคจิตแอบมอง โดยทำหน้าตาตกใจ ตนจึงเข้าไปในห้องน้ำ ยอมรับว่าขณะนั้นโมโห จึงได้พูดคุยเสียงดัง กดดันให้เขาพยายามออกมา กระทั่งคนร้ายยอมเปิดประตูออกมา เหตุการณ์ก็ปรากฎเหมือนในคลิปวิดีโอ จากนั้นให้พนักงานปั๊มน้ำมัน โทรแจ้งตำรวจ รอสักพักตนเห็นว่าข้างปั๊มมีรถตำรวจจอดอยู่รีบวิ่งไปหา แต่ไม่มีใครลงมา
จากนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือและได้ต่อยคนร้าย เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไป ขณะที่ตนวิ่งตามนั้นเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นายนั่งค่อมรถอยู่ ซึ่งคนร้ายได้อยู่ห่างเพียง 2 เมตร ขณะนั้นใจตนนั้นชื้นมาก พอเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวบอกให้ตนนั้นวิ่งตามคนร้ายไป จากนั้นเขาก็ได้ขับรถหนี ขณะเดียวกันตนวิ่งไป ได้โทรศัพท์แจ้งความ แต่กลับไม่มีใครที่รับสาย ซึ่งโทรไปหลายสายมาก กระทั่งสุดท้ายรับสาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ้างว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีใครสะดวก เนื่องจากติดภารกิจ
จากนั้น ตนสามารถล็อกคอคนร้ายหนีได้ แต่คนร้ายสะบัดและหนีไป ตนได้นั่งวินกลับมาที่ปั๊มน้ำมัน รอเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มาแล้ว กระทั่งทนไม่ไหวจึงได้มีการโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ทำให้ตำรวจได้โทรมาชี้แจงว่านายตำรวจคนดังกล่าวนั้นเป็นเจ้าหน้าจราจร ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ตนฟังแล้วโมโห จึงได้ไลฟ์สดเล่เาหตุการณ์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามแล้ว ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใช้ออกมาชี้แจงว่า การเป็นตำรวจจราจรไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้หรือ หากสมมุติว่าตนยิงคนตายตรงบริเวณตรงหน้า ตำรวจจราจรจะจับตนหรือไม่ ขณะนี้ตนยังไม่ได้ไปแจ้งความเนื่องจากไม่พอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนขณะนี้ตนก็ติดใจเอาความกับทางคนร้าย
ขอบคุณ อมรินทีวี/ไทยรัฐ