สันติ กลับลำสารภาพ ลงมือฆ่า 4 ศพที่ไต้หวัน ยอมรับร่วมมือเพื่อน 2 คน วางแผน-ลงมือเอง ไม่ใช่มาเฟีย อ้างปมค้ายาเสพติด ชนวนขัดแย้ง
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2565 จากกรณีกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำตัว นายสันติ หรือหวัง ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” จากการก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.พจนีย์ แซ่หลี่ หรือมี่ อายุ 35 ปี และนายประเสริฐ โนราษ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยาชาวไทย พร้อมลูกแฝดในครรภ์ ที่ไต้หวัน ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ตึกใหม่กองปราบปราม 8 ชั้น ก่อนนำตัวขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวนั้น
ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลังการสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ในที่สุด นายสันติ ได้กลับคำให้การ จากปฏิเสธเป็นให้การรับสารภาพว่า ตนได้ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ร่วมกันฆ่าผู้ตายเอง ไม่ใช่มาเฟียไต้หวันตามที่กล่าวอ้างไว้ก่อนหน้านี้ โดยตนเป็นผู้สั่งการวางแผนล่อลวงผู้ตายให้มาพบเพื่อลงมือสังหาร
นายสันติ ยังอ้างอีกว่า ได้ทำธุรกิจผิดกฎหมายชนิดหนึ่งกับแก๊งในไต้หวัน โดยนำของมาส่งต่อให้กับผู้ตายทั้งสองคนนำไปขายต่อ ภายหลังผู้ตายอ้างว่า เก็บเงินไม่ได้ จนทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งกัน จึงนำมาสู่การวางแผนลงมือสังหารในที่สุด
ขอบคุณ ไบร์ททีวี/ข่าวสด