หญิงติดโควิด-19 รักษาตัวด้วยการกินยาฟาวิพิราเวียร์ แต่พอเข้าห้องน้ำก็เริ่มเห็นอาการผิดปกติเพราะปัสสาวะแล้วมีเลือดปนมาเป็นหยดผสมกัน
เมื่อวันที่ 22 ก.พ.65 น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้ป่วยโควิด-19 อายุ 41 ปี ที่โพสต์เรื่องราวผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ หลังจากติดเชื้อโควิดแล้วเกิดอาการแปลกๆ ในช่องท้องโดยไม่ปวด แต่กลับขับเลือดออกมา เปิดเผยกับข่าวสดออนไลน์ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา มีอาการป่วยผิดปกติ ตอนแรกยังตรวจ atk ไม่เจอ กระทั่งวันที่ 18 ก.พ.จึงทราบว่าผลเป็นบวก จึงติดต่อไปยังโรงพยาบาลแต่ยังไม่ได้คิว
ก่อนจะเริ่มได้รับการรักษาวันที่ 20 ก.พ.และรับยาฟาวิพิราเวียร์มาทานในเวลา 21.00น. ทั้งหมด 9 เม็ด และเช้าวันที่ 21 ก.พ.อีก 9 เม็ด แต่พอเข้าห้องน้ำก็เริ่มเห็นอาการผิดปกติเพราะปัสสาวะแล้วมีเลือดปนมาเป็นหยดผสมกัน ทั้งที่ไม่มีอาการเจ็บปวด ไม่ทราบว่าผลมาจากการดื่มน้ำน้อย หรือตัวยาเอง
น.ส.เอ กล่าวยืนยันว่า เลือดดังกล่าวไม่ใช่รอบเดือน เพราะปกติจะมาในอีก 6-7 วันและต้องมีอาการปวดมากทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มี พอถามไปยังโรงพยาบาลที่รักษาแล้ว เภสัชกรแจ้งว่าไม่มีผลการศึกษาออกมาก่อนว่ายาจะทำให้มีเลือดออกหรือไม่ เนื่องจากเป็นยาตัวใหม่ ไม่มีข้อมูลให้ตนเพียงพอ แต่ก็ให้รับยาต่อไปเพื่อดูอาการ ตอนนี้ก็ยังกังวล เพราะวันนี้เลือดเยอะกว่าเดิมเป็นสีแดงสด อยากให้ผู้ที่มีความรู้หรือนักวิจัยระบุว่าเลือดดังกล่าวมีผลกับประจำเดือนว่าจะทำให้มาเร็วขึ้นหรือไม่ ทำให้ไม่ปวดท้องหรืออะไร ตนกังวลว่าถ้าเป็นอาการแพ้ยา ทำไมจึงต่างจากคนอื่น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อาการป่วยโควิดของตนดีขึ้นมากแล้ว แต่มีอาการเพลียจากยาฟาวิพิราเวียร์เท่านั้น
ขอบคุณ เรื่องเด่นเย็นนี้/อยากดังเดียวจัดให้
