ผู้เสียหายจากการถูกดูดเงิน แนะวิธีการว่าทำอย่างไร จึงได้เงินคืนใน 3 วัน โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้วที่ธนาคารแล้ว แต่ต้องรอนาน 90 วัน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ และนำใบแจ้งความมาติดต่อธนาคาร ผลปรากฎว่าธนาคารโอนเงินคืน ให้ในเวลาเพียง 3 วัน
เป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจอย่างมากในขณะนี้ กับเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ เมื่อพบผู้เสียหายหลายรายถูกดูดเงินออกจากบัญชีแบบถี่ยิบ บางรายครั้งละหลักสิบบาท แต่หลายครั้งรวมกันเป็นร้อย ๆ รอบ ซึ่งผู้เสียหายแต่ละรายยืนยันว่าไม่ได้รับการแจ้งเตือนแต่อย่างใดจากแอปพลิเคชันของธนาคาร หรือแม้แต่ SMS
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (19 ตุลาคม 2564) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานบทสัมภาษณ์ คุณเกียง หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกดูดเงินไปแบบไม่รู้ตัวกว่า 200,000 บาท เหตุเกิดช่วงตั้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา แต่เบื้องต้นเจ้าตัวได้รับเงินคืนจากธนาคารแล้ว เนื่องจากเดินทางไปแจ้งความตำรวจ หลังจากที่พยายามติดต่อกับธนาคารเพื่อเดินเรื่อง แต่ธนาคารกลับให้รอตรวจสอบ บอกเพียงว่าต้องใช้เวลาถึง 50 – 90 วัน
โดยคุณเกียง เล่าว่า บัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีที่ผูกกับบัตรเดบิต ที่สามารถฝากเงินสกุลต่างประเทศได้ ตนฝากเงินไว้เพื่อสำหรับไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ติดโควิด 19 เลยยังไม่ได้ไปไหน และยังไม่ได้ใช้เงินดังกล่าว ซึ่งเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา เข้าไปเช็กแอปฯ ธนาคาร พบว่าเงินถูกตัดไปครั้งแรกวันที่ 1 จำนวน 120,000 บาท แจ้งว่าทำรายการกับโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสาทร และยอดที่ 2 วันที่ 6 ถูกตัดไปอีกเป็นสกุลเงิน USD จำนวนประมาณ 1 แสนบาท
ทั้งนี้ ตนรีบทำการอายัดบัตรและติดต่อคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องใช้เวลาดำเนินการ 50 – 90 วัน พร้อมสอบถามว่า ได้มีการชำระเงินเอง หรือนำบัญชีไปผูกกับแอปฯ ช้อปปิ้ง หรือมีคนในบ้านเอาบัตรไปใช้หรือไม่ ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่มี หลังจากนั้นก็พยายามติดต่ออัปเดตกับธนาคารทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ก็ได้รับคำตอบเพียงว่ากำลังดำเนินการอยู่ จึงตัดสินใจแจ้งความ
อย่างไรก็ตาม หลังแจ้งความแล้ว ตนเอาเรื่องยื่นธนาคารอีกทีผ่านทางอีเมล์ ตนเองก็ได้รับเงินคืนจากธนาคารภายใน 3 วัน แต่ก็ยังไม่ได้รับคำชี้แจงสาเหตุจากธนาคารแต่อย่างใด แต่ส่วนตัวเชื่อเกิดจากข้อมูลรั่วไหลจากธนาคารเอง เพราะเงินถูกตัดไปจากบัญชีโดยที่ไม่ได้รับ SMS หรือ OTP แต่อย่างใด พอถามไปเจ้าหน้าที่อ้างว่าบัตรนี้ไม่มีระบบนี้
คุณเกียง กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองอยากให้ธนาคารมีมาตรการที่รัดกุมกว่านี้ เพราะปล่อยให้เงินหลักแสนหายไปง่าย ๆ รวมถึงอยากให้แสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้ามากกว่านี้ด้วย พร้อมแนะนำผู้เสียหายว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ควรรีบอายัดบัตรแล้วแจ้งความทันที เพราะส่วนมากธนาคารจะแจ้งว่าไม่ต้องดำเนินการอะไร กำลังตรวจสอบให้
หากไม่แจ้งความจะเป็นกรณีระหว่างเจ้าของบัญชีกับผู้รับเงิน แต่หากแจ้งความแล้ว เรื่องจะเปลี่ยนคู่กรณีเป็นระหว่างธนาคารกับผู้รับเงินแทน
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเรื่องเด่นเย็นนี้
