นายสุดปิติ เหียงมณี อายุ 39 ปี ชาว ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำภาพโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กของหญิงสาวร่างอวบพร้อมโปรไฟล์เฟซบุ๊กสาวหุ่นดีที่ถูกสาวร่างอวบนำไปแอบอ้างว่าเป็นตัวเองแล้วหลอกคุยหยอดคำหวานได้เงินไปกว่า 1 แสนบาทมาให้ผู้สื่อข่าวดูเพื่อแจ้งเตือนหนุ่มๆรายอื่นๆไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ พร้อมเล่าเหตุการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์หลังจากนายสุดปิตินำไปโพสต์ลงบนโลกโซเชียลเพื่อตามหาเบาะแสของสาวอวบรายดังกล่าวว่า “ใครมีเบาะแส น.ส.ลักขณา กริ่มใจ ตามทะเบียนบ้าน 71 ม.1 ต.บางลูกเสือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เบอร์ 06-4774-2050 ซิมแพนกวิน คุยล่าสุดวันศุกร์ที่ 24 เมษายน 63 ตอนนี้ติดต่อไม่ได้ พ่อมันบอกไปทำงานดูแลผู้สูงอายุแต่ไม่รู้ที่ แต่ตอนนี้พ่องแม่งก็ไม่รับโทรศัพท์ ใครมีเบาะแสจนตำรวจตามจับได้ รับไปห้าพันบาท ใครเช็คสัญญานโทรศัพท์ได้เช็คให้หน่อยเบอร์นี้ใช้อยู่ที่ไหนวันศุกร์”
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2561 ตนเองได้เล่นเฟซบุ๊กและแอดไปหาสาวๆตามประสาคนโสด กระทั่งพบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พราว ปุณยวีร์” ซึ่งรูปภาพโปรไฟล์หน้าตาดี จึงได้แอดเพื่อนไปแล้วเข้าไปทักทาย ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันสักพักแต่ยังไม่ใช่เป็นการจีบ เป็นการพูดคุยธรรมดาแล้วก็หยุดคุยเงียบหายไป แต่ต่อมาประมาณช่วงเดือน ต.ค.2562 ได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง และเริ่มคุยกันมากขึ้นจนมีการพูดจาแบบจีบกันตามประสาหนุ่มสาว ซึ่งขณะนั้นทราบเพียงว่าหญิงรายดังกล่าวที่คุยด้วยเป็นนักธุรกิจเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่ จ.ชลบุรี หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยติดต่อกันเรื่อยมาทั้งการส่งข้อความการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ และมีการชวนกันไปเที่ยวที่เกาะจิก จ.ชลบุรี โดยฝ่ายหญิงเป็นคนหาที่พัก เมื่อได้ที่พักแล้วหญิงรายดังกล่าวก็แจ้งมาตนเองจึงโอนเงินค่าเช่าห้องพักไปให้ฝ่ายหญิงเป็นคนจัดการ ซึ่งตลอดเวลาที่คุยกันฝ่ายหญิงจะไม่ขอเงินตรงๆ แต่จะเป็นการพูดคุยกันเกี่ยวกับจะซื้อของแบบคู่รักหนุ่มสาว ทั้งเสื้อคู่ แหวนคู่ กำไรคู่ และอื่นๆอีกจำนวนมาก เฉลี่ยแล้วเป็นเงินครั้งละ 3,000-4,000 บาท มาสุดคือซื้อกำไรราคากว่า 14,000 บาท โดยการโอนผ่านแอบพลิเคชันของธนาคารซึ่งจะมีสลิปการโอนเงินเก็บไว้ตลอด และหลาครั้งที่ตนเองขอคุยแบบเห็นหน้าด้วยการวีดีโอคอล ฝ่าหญิงก็จะบ่ายเบี่ยงอ้างว่ายังไม่พร้อมขอเจอหน้าทีเดียวในตอนที่ไปเที่ยวด้วยกัน และพอถึงวันนัดที่จะไปเที่ยวด้วยกันที่เกาะจิก ได้เดินทางไปแต่ปรากฏว่าเกาะจิกปิดไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า จึงบอกฝ่ายหญิงว่าขอไปหาที่บ้าน แต่ก็ถูกปฏิเสธจึงต้องเดินทางกลับ
หลังจากนั้นก็เริ่มเอะใจว่าจะถูกหลอกหรือไม่ก็บอกฝ่ายหยิงว่าไม่มีเงินจะจ่ายให้แล้ว แต่ก็ยังคงมีการติดต่อพูดคุยกันตามเดิม แต่ตนเองก็พยายามจะขอคุยแบบวีดีโอคอลแต่ก็ถูกปฏิเสธบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด และพยายามสืบหาว่าโปรไฟล์ดังกล่าวเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม นอกจาจกนี้มีหลายครั้งที่คุยโทรศัพท์กันได้ยินเสียงเด็กเรียกชื่อฝ่ายหญิงว่าหมู พอถามไปก็ได้รับคำตอบว่าเป็นชื่อเรียกตอนเด็กในครอบครัว จนกระทั่งสืบเสาะหาตัวและพบตัวตนที่แท้จริงของหญิงสาวที่ปรากฏรูปในโปรไฟล์ “พราว ปุณยวีร์” ซึ่งมีตัวตนจริงและเป็นนักธุรกิจที่มีครอบครัวแล้ว จึงได้มีการพูดคุยกัน จนทราบว่าคุณพราวถูกหญิงสาวอีกคนนำรูปมาใช้เป็นโปรไฟล์เพื่อหลอกลวงเอาเงินคนอื่น จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลของหญิงสาวรายดังกล่าวจนทราบว่าเป็นชาวอ.องครักษ์ จ.นครนายก จึงได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563ที่ผ่านมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสืบสวนจับกุมดำเนินคดีกับหญิงสาวที่หลอกเอาเงินรวม 107,450 บาท ต่อมาในวันที่ 24 ได้เบอร์โทรศัพท์ของหญิงรายนี้มาจึงให้ญาติโทรศัพท์ติดต่อสอบถามในเรื่องของเงินที่หลอกไปแสนกว่าบาท จนทราบว่าหญิงรายนี้ชื่อเล่นว่าหมิง รูปร่างอวบต่างจากในรูป และยอมรับว่า หลอกเอาเงินไปจริง เพราะจะเอาไปเลี้ยงดูพ่อที่ชราเพราะเงินเดือนที่ทำงานเลี้ยงดูคนชราเดือนละ 15,000บาท ไม่พอใช้ และจะพยายามผ่อนคืนให้ ญาติจึงให้มาพบเพื่อพูดคุยกันต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ในเร็วๆนี้ จากนั้น นางสาวหมิงก็ตัดสายไป และติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงตัดสินใจโพสเฟซบุ๊กตามหาตัวนางสาวหมิง เพื่อจะให้ตำรวจนำตัวมาสอบสวน แต่โดยส่วนตัวนั้นหากหญิงรายดังกล่าวขอโทษและสำนึกผิดก็พร้อมให้อภัย เพราะเชื่อว่าอาจจะมีความเดือดร้อนจริงๆ แต่ในส่วนของการกระทำความผิดก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย
นายสุดปิติ ยังบอกอีกว่า ที่ยอมให้ถูกหลอกมาปีกว่านั้นไม่ใช่เพราะไม่รู้ แต่เป็นเพราะว่าหลังจากที่ตนเองรู้ตัวก็อยากจะจับผิดให้ได้คาหนังคาเขา ด้วยการเล่นเกมส์หลอกล่อคำพูดทุกคำพูดให้เป็นหลักฐานมัดตัว จนสุดท้ายหญิงรายดังกล่าวก็ยอมรับออกมาซึ่งตนเองมีการอัดเสียงเอาไว้ในตอนที่หญิงรายนี้ให้การรับสารภาพว่าหลอกลวงตนเอง และเฟซบุ๊กที่ใช้นั้นแอบอ้างหญิงรูปร่างหน้าตาดีมาใช้เพื่อหลอกลวง และขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคนหากไม่ได้เจอตัวจริงก็ให้เชื่อเลยว่าถูกหลอกอย่างแน่นอน