กระทรวงสาธารณสุขของประเทศอิสราเอล ออกประกาศว่าประชาชนไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกอาคารแล้ว เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์นี้
17 เมษายน 2564 หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศต่ำลงอย่างมาก และประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีน โควิด19 ให้กับประชาชนขนานใหญ่ ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขของประเทศอิสราเอล ออกประกาศว่า ตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ เป็นต้นไป ประชาชนไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกอาคารแล้ว แต่ยังคงต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารเช่นเดิม
สำหรับประเทศอิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา โดยเลือกใช้วัคซีนของไฟเซอร์
นายยูลิ อีเดลสไตน์ (Yuli Edelstein) รัฐมนตรีสาธารณสุขอิสราเอล แถลงว่า เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์นี้เป็นต้นไป ชาวอิสราเอลไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเวลาออกไปข้างนอกหรือกลางแจ้ง เนื่องจากพบว่าอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความสำเร็จจากการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและควบคุมการระบาด รัฐบาลจึงต้องการลดข้อจำกัดบางอย่างลง แต่อย่างไรก็ตาม เวลาอยู่ในอาคารหรือสถานที่ปิด ยังจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่เช่นเดิม
รัฐมนตรีสาธารณสุขอิสราเอล กล่าวว่า อัตราการติดเชื้อโควิดในอิสราเอลที่ลดลงอย่างต่อเนื่องถือเป็นความสำเร็จของการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอิสราเอลถือได้ว่าเป็นประเทศที่สามารถผลักดันให้ประชาชนฉีดวัคซีนได้ไวกว่าประเทศอื่นใดทั่วโลก โดยขณะนี้ ประชากรอิสราเอลมากกว่าครึ่งได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากอัตราการติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อิสราเอล ได้เริ่มผ่อนคลาย ยกข้อจำกัดต่างๆ เพื่อเปิดทางให้ธุรกิจต่างๆกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้ตามปกติ พื้นที่สาธารณะก็เปิดให้จัดกิจกรรมต่างๆ ได้ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด กล่าวว่า อิสราเอลอาจจะถึงจุดที่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ แล้วนำไปสู่การยกเลิกข้อจำกัดอื่นๆ อีกตามมาในเวลาอีกไม่นาน
ขอบคุณ ไทยรัฐ/แนวหน้า