เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “โอ๋ เมจิโฟน ภูเก็ต” ได้โพสต์ภาพ และข้อความที่ระบุว่า หรือระเบิดพลีชีพ ลืมไว้ในรถ 6 วัน จอดในบ้านไม่โดนแสงแดด เล่นชะกระจกหลังแตกเลยจากนั้นก็มีชาวโซเชียลเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถาม น.ส.กฤษฏาภรณ์ ทองเขียว หรือ คุณบุ๋ม ภรรยาเจ้าของร้าน เมจิโฟนภูเก็ต ระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้นำรถออกไปส่งลูกสาวเรียนพิเศษ และซื้อเครื่องดื่มดังกล่าววางไว้ท้ายรถ ก่อนนำรถคันดังกล่าวมาจอดหลังร้าน ทางเข้าวิทยาลัยเทคโนโลยีภูเก็ต ถ.เทพกระษัตรี อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งจุดที่จอดนั้น เป็นพื้นที่ระหว่างอาคารพาณิชย์ 2 หลัง อยู่ในร่ม โดยลืมเอาเครื่องดื่มลงจากรถ และจากนั้นรถไม่ได้ใช้งานอีกเลย เนื่องจากลูกสาวปิดเทอม
กระทั่ง ในเวลาประมาณ 12.30 น.วานนี้(28 พ.ย.63) ได้เข้าไปที่รถเพื่อเตรียมไปส่งลูกสาวเรียนพิเศษตามปกติ และพบว่ากระจกฝากระโปรงหลังแตก มีลักษณะคล้ายร่องรอยการทุบกหรือแงะกระจก ตนเองจึงไม่กล้าเปิดรถ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อหลักฐาน เช่นร่องรอยนิ้วมือคนร้าย หากมีการโจรกรรม จึงรีบไปตรวจสอบดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้าน หากพบมีภาพคนร้ายก็จะได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ แต่หลังจากนั่งดูภาพหลายชั่วโมงก็ไม่พบ จึงตัดสินใจมาเปิดรถดูก็พบว่าเกิดจากขวดเครื่องดื่มที่ลืมไว้ระเบิด โดยระเบิดแค่ 1 ขวด แต่นับว่ามีความรุนแรงมาก สะเก็ดของขวดแก้วกระเด็นกระแทกกระจกหลังจนแตก สภาพภายในรถ เละเทะ ซึ่งนั้นสาเหตุที่ระเบิดนั้นก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะมาจากการเน่าเสียจนเกิดเป็นแก๊สและระเบิด แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าใช่สาเหตุจากความร้อน เพราะรถจอดอยู่ในที่ร่ม และเครื่องดื่มอื่นๆก็วางอยู่ด้วย แต่ไม่มีการระเบิด
อย่างไรก็ตาม อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์แก่สังคม ให้เพิ่มความระมัดระวัง อย่าลืมหรือวางสิ่งของไว้ในรถ ถึงแม้เป็นแค่ขวดเครื่องดื่ม หรือของเหลวต่างๆ ก็ตาม และหากมีภาชนะเป็นแก้ว ยิ่งต้องระวัง อย่าคิดว่าเป็นแค่เครื่องดื่มธรรมดาไม่มีอะไร อาจทำให้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นได้ เหตุการณ์ครั้งนี้เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ.