เจ้าของโฮมสเตย์ร่ำไห้ไลฟ์โวยวัดใจดำปิดทางเข้าออกที่ดินตาบอด ทั้งที่เคยตกลงว่าจะให้ใช้ทางโดยไม่บอกเหตุผล ส่งผลกระทบต่อกิจการ ด้านชาวโซเชียลวิจารณ์เสียงแตก
ไลฟ์ของหญิงคนหนึ่ง ที่ระบายความอัดอั้นตันใจกรณีที่วัดป่าชัยมงคล จ.ระนอง นำที่ดินมาถมปิดทางเข้าออกโฮมสเตย์ ของเธอ จนส่งผลต่อธุรกิจ และรายได้ของครอบครัว ระหว่างที่ไลฟ์เธอก็ร้องไห้เกือบตลอดเวลา โดยมีลูกที่ยังเล็กที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย คอยพูดจาปลอบใจ
ไลฟ์นี้มีคนเข้าไปชมกว่า 8 แสนครั้ง และแสดงความเห็นวิพากวิจารณ์กว่า 1 หมื่น 5 พันข้อความ ส่วนใหญ่แสดงความเห็นใจเจ้าของโฮมสเตย์ มองว่าวัดควรมีเมตตาต่อชาวบ้าน แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่มองว่า ในเมื่อวัดเป็นเจ้าของที่ดินก็ย่อมมีสิทธิ์จะจัดการที่ดินของตัวเอง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับหญิงเจ้าของคลิป คือ น.ส.เขมมิสรา บุตรศรีภูมิ เจ้าของโฮมสเตย์พรรั้งบ้านไร่ เล่าว่า เธอย้ายมาจากกรุงเทพตั้งใจจะกลับมาทำมาหากินที่บ้านเกิด โดยทางญาติได้ให้เข้าไป ทำกินใน ที่ดิน ส.ป.ก.ประมาณ 1 ไร่เศษ ติดเขตวัด
เธอกับสามีจึงทำโฮมสเตย์ 5 หลัง และร้านอาหารเล็กๆ เพราะเห็นว่ามีธรรมชาติที่สวยงาม แต่ที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินตาบอดเข้าออกได้ทางเดียว คือต้องผ่านวัดป่าชัยมงคลซึ่งอยู่ติดกัน เธอจึงไปขออนุญาตเจ้าอาวาสเพื่อขอใช้เส้นทางเมื่อช่วงเดือน เม.ย.64 ซึ่งช่วงแรกเจ้าอาวาสก็อนุญาต แต่ขอไม่ให้นำรถใหญ่เข้าไป เธอจึงซื้อรถ ATV ไว้สำหรับขนของ
แต่ช่วงหลังมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์ ทางวัดอ้างว่ารถลูกค้ากีดขวางคนที่มาทำบุญที่วัด หลังจากนั้นทางวัดก็บอกให้เธอยกเลิกใช้รถ ATV ให้เปลี่ยนมาเป็นเดินเท้า ก่อนที่นำเสาปูนมากั้นปิดทางรถ ซึ่งเธอก็ยอม และให้ลูกค้าเดินเข้ามาระยะทาง 300-400 เมตร
แต่ล่าสุดเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ทางวัดให้รถแบคโฮนำดินเข้ามาถมปิดเส้นทางทั้งหมดไม่ให้สัญจร สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ซึ่งเธอก็สงสัยว่าทำไมตอนแรกทางวัดอนุญาตแต่กลับเปลี่ยนใจทั้งที่เธอลงทุนกับกิจการไปแล้ว หากไม่อนุญาตก็น่าจะบอกตั้งแต่แรก
เจ้าของโฮมสเตย์พรรั้งบ้านไร่ บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุพยายามขอเจรจาหลายครั้งแต่ทางวัดก็ไม่ยอมเจรจาด้วยเธอจึงขอความช่วยเหลือจาก สจ.ในพื้นที่ไกล่เกลี่ยให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าทางวัดจะยอมเจรจาอีกหรือไม่ ซึ่งเธอก็อยากให้มีการตกลงพูดคุยกันว่าเหตุผลอะไรทางวัดจึงได้ปิดเส้นทางทั้งๆที่เธอก็ให้ความร่วมมือกับวัดมาโดยตลอด
ทีมข่าวพยายามติดต่อทางวัด แต่ทราบว่าทางเจ้าอาวาสไม่อยู่และไม่มีคนให้ข้อมูลได้ แต่ทราบว่าเรื่องนี้ทางเจ้าคณะปกครองสงฆ์ในพื้นที่ได้เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงแล้วและจะให้ทางเจ้าคณะอำเภอเมืองระนองเรียกเจ้าอาวาสวัดป่าชัยมงคลและเจ้าของโฮมสเตย์มาเจรจากัน โดยจะกำหนดวันนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้ง
ขอบคุณ ข่าวสด/pptv36