เปิดคำสารภาพฆาตกรโหดฆ่าสาววัย 18 ปี ยัดศพเปลือยในกล่องดำ อ้างฝ่ายหญิงต้องการให้รับเลี้ยงดู ทั้งที่ตนเองมีลูกเมียแล้ว เมียคนร้ายเผยสามีเป็นคนอารมณ์ร้อน และคาดว่าน่าจะเสพยาก่อนลงมือ ด้านพ่อผู้เสียชีวิตยันไม่เชื่อคำพูดคนร้ายที่อ้างว่าแอบคบหากันแล้วถูกให้รับเป็นเมีย เผยมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มของคนร้ายมาก่อน
จากกรณีตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกฆ่ายัดกล่องพลาสติกทิ้งอยู่ในพงหญ้าหลังบ้านพักคนงานแพล้นท์ปูน หมู่ 7 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สภาพศพท่อนล่างเปลือยมีรอยเขียวฟกช้ำ ตรวจสอบทราบชื่อคือ น.ส.สุมิตา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องเต็น อายุ 18 ปี
วันที่ 4 ก.พ.65 พ.ต.ต.อำนาจ อินพันธุ์คำ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบกล่องปริศนาสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมาจากบริเวณดงหญ้า หลังบ้านพักคนงาน พื้นที่หมู่ 7 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.นิวัติ มาตะราช รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี, พ.ต.อ.มงคล สุนทรวิภาต นวท.(สบ.4) พฐ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.ท.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองสุพรรณบุรี, ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สุพรรณบุรี, ตำรวจชุดสืบสวน, เจ้าหน้าที่สมาคมร่วมใจสวนแตง และแพทย์เวร รพ.เจ้าพระยายมราช
ที่เกิดเหตุพบกล่องพลาสติกสีดำ ขนาดยาว 38 ซม. กว้าง 70 ซม. รัดด้วยเชือกบริเวณฝากล่อง จากการตรวจสอบภายในพบศพหญิงสาว ทราบต่อมาคือ น.ส.สุมิตา อายุ 18 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี สภาพเปลือยท่อนล่าง ใส่เสื้อทีมฟุตบอล มีกางเกงมัดอยู่ที่ข้อเท้า และมีรอยเชียวช้ำตามร่างกายหลายจุด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ในกล่องยังพบเสื้อผ้า ตุ๊กตา และผ้าห่มถูกยัดอยู่ด้านใน
จากการสอบถาม นายประสาน พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า ลูกสาวหายออกจากบ้านตั้งแต่คืนวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา พอเช้าวันที่ 31 ม.ค. ตนก็ออกตามหาแต่ไม่พบ ซึ่งญาติได้ประกาศหาตามหาทางโซเชียลตั้งแต่วันที่หายตัวไป พร้อมไปแจ้งความไว้
ปกติจะพูดคุยกับลูกทุกวัน แต่พอลูกหายไป ก็คิดว่าผิดปกติแล้ว เพราะตอนเช้าของวันที่ 31 ม.ค. ตนโทรหาให้มากินข้าว โทรไปหาก็ไม่ติด ถามลูกสาวอีกคนก็บอกน้องไม่อยู่ด้วยกัน จึงขึ้นไปดูบนห้องพัก เห็นพัดลมเปิดอยู่ ที่พื้นมีน้ำหก เลยสงสัย เพราะถ้าลูกออกไปทำธุระทำไมไม่ปิดพัดลม ลูกสาวไม่ได้เรียนแล้ว ตอนนี้ทำงานเป็นคนงานอยู่ด้วยกัน ลูกสาวจะนอนคนเดียวอยู่อีกห้อง ตอนนี้สงสัยก็จะเป็นคนงานห้องติดกับลูกสาว ซึ่งย้ายออกไปแล้ว
ขณะที่แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนลูกสาวหายตัวไปก็ไม่ได้คุยอะไรให้ฟัง ทางครอบครัวก็ออกตามหากันทุกวัน เพราะหายไปนานผิดสังเกต ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ พอเห็นผ้าห่มที่อยู่ในกล่องพลาสติกก็จำได้ เพราะเป็นผ้าห่มที่ตนเคยให้ลูกสาว ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ได้เข้าตรวจสอบติดตามตัว นายธนกร อายุ 20 ปี หลังได้รับการประสานงานจาก สภ.เมืองสุพรรณบุรี ว่านายธนกร ซึ่งเป็นหนุ่มต้องสงสัยที่ก่อเหตุ ได้เดินทางเข้ามาอยู่ในพื้นกับกับภรรยาที่บ้านหนองมะงง ม.4 ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ กระทั่งพบตัวดังกล่าว
เบื้องต้น นายธนกร ยอมรับว่าได้ก่อเหตุจริง ซึ่งนายธนกรกับผู้ตาย ทำงานที่เดียวกันและมีห้องพักติดกัน ทั้งสองคนมีสัมพันธ์ฉันชู้สาว แต่พ่อแม่ผู้ตายไม่รู้
วันเกิดเหตุนายธนกรหาเข้าไปห้องผู้ตายสองต่อสองแล้วได้พูดคุยกัน ซึ่งฝ่ายผู้ตายต้องการให้รับเลี้ยงดูฉันสามีภรรยาและต้องการบอกให้บิดาของผู้ตายให้รับรู้ แต่ฝ่ายชายไม่อยากรับเลี้ยงดู เพราะมีลูกเมียอยู่แล้ว จึงเกิดปากเสียงกัน
ก่อนจะใช้มือบีบคอผู้ตาย นำศพไปยัดใส่กล่องที่ห้องตัวเองแล้วก็ให้เพื่อนที่เป็นคนเมียนมาช่วยยกศพลงมาซุกซ่อนไว้ ก่อนหลบหนีมาอยู่กับภรรยาที่บ้านหนองมะงง ม.4 ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จนกระทั่งถูกจับดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว โดยชุดสืบสวน สภ.ห้วยผึ้ง ได้เข้าตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่บ้านหนองมะงง อ.ห้วยผึ้ง หลังได้รับประสานงานจาก สภ.เมืองสุพรรณบุรี
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ก็พบว่าเป็นบุคคลซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานตรงกับที่ได้รับแจ้งมา ก่อนจะนำตัวมาสอบถาม
วันนี้ 5 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรีได้เดินทางมารับตัวนายธนากร อรัญทอง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ม.11 ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ จ 17 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายไปสอบสวนที่สภ.เมืองสุพรรบุรีเมื่อช่วงเวลา 01.00 ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง อ้างว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้เสียชีวิต และผู้เสียชีวิตอยากให้เลี้ยงดู แต่ตนมีเมียและลูกอยู่แล้ว จึงเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนลงมือบีบคอจนเสียชีวิตแล้วนำศพยัดใส่กล่อง
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหนองมะงง ม.4 ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของภรรยานายธนากร ที่มาหลบอยู่หลังก่อเหตุ พบว่า เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มุงด้วยสังกะสี ซึ่งสร้างยังไม่เสร็จ และได้พบกับนางสาวปิยะพร กาญจน์จันดา อายุ 18 ปี ภรรยานายธนากร และน้องไอริน ลูกสาววัย 4 เดือน และนางบัวผัน กาญจน์จันดา อายุ 64 ปี ยายของนางสาวปิยะพร
นางสาวปิยะพร เล่าว่า อยู่กินฉันท์สามีภรรยากับนายธนากร หรือแป๊บ ได้ประมาณ 1 ปี มีลูกสาววัย 4 เดือน 1 คน ซึ่งนายธนากรบ้านอยู่ใน ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ได้เดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ จ.สุพรรณบุรีได้ประมาณ 5-6 เดือน ปกตินายธนากรเป็นคนอารมณ์ร้อน ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางกลับมาบ้านเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บอกเพียงว่าคิดถึงลูก แต่ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังว่าไปทำอะไรมา ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกๆ 2 เดือนนายธนากรจะกลับมาเยี่ยมบ้าน
กระทั่งเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 มีตำรวจตามมาจับกุมตัวที่บ้าน จึงทราบเรื่อง ตนตกใจมาก ทีแรกไม่อยากเชื่อ เพราะสามีแม้จะเป็นคนอารมณ์ร้อนก็จริง แต่ไม่ได้เป็นคนมีนิสัยโหดร้ายขนาดนั้น คาดว่าการก่อเหตุน่าจะเสพยาด้วย เพราะหากไม่เสพยาก็จะไม่ใช่คนนิสัยแบบนี้ อย่างไรก็ตามส่วนในเรื่องของคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย ตนและญาติพี่น้องก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงลูกต่อไป
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 5 ก.พ. 65 นายประสาน หมทอง อายุ 53 ปี เข้าติดต่อขอรับศพ น.ส.สุมิตา พลเสน อายุ 18 ปี บุตรสาวที่เสียชีวิต คนร้ายนำศพยัดใส่กล่องพลาสติกสีดำไปโยนทิ้งในพงหญ้า ในคลองมโนรา หลังที่พักคนงานแพลนต์ปูนในพื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี
คดีนี้หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลออกหมายจับ นายธนากร อรัญทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 11 ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย โดยได้ประสานไปที่ตำรวจ สภ.สมเด็จ และ สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ติดตามจับกุมตัวนายธนากรได้ที่บ้านภรรยาในตำบลคำบง อำเภอห้วยผึ้ง เบื้องต้นจากการสอบสวนนายธนากรอ้างว่าบีบคอจนเสียชีวิต แล้วนำศพยัดใส่กล่องทิ้งในป่าด้านหลังแพลนต์ปูน
ด้านนายประสาน พ่อผู้ตาย ได้เปิดเผยขณะมารับศพลูกสาวว่า ผลการผ่าชันสูตรเบื้องต้น แพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนผลผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดจะต้องรอผลการตรวจอีกครั้ง โดยจะนำศพลูกสาวไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดชุมนุมพระ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี รู้สึกเสียใจกับการจากไปของลูกสาว อยากให้ผลการตัดสินคดีนี้ลงโทษประหารชีวิตผู้ต้องหา จะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดอย่างที่ลูกสาวตนต้องได้รับ
พ่อของ น.ส.สุมิตา เผยด้วยว่า ที่ผ่านมาตนทำงานเป็นพนักงานขับรถเทปูน เคยพบเห็นตัวผู้ต้องหาไปๆ มาๆ อยู่หลายครั้ง แต่ไม่เคยพูดคุยกับกลุ่มของผู้ต้องหา เพราะมีความไม่ลงรอยกันอยู่ก่อน และคิดว่าสาเหตุการฆ่าลูกสาวนั้น น่าจะมาจากเรื่องอื่นมากกว่าทะเลาะกันเรื่องชู้สาว ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์มือถือทั้ง Facebook และ LINE ของลูกสาวตนว่ามีการพูดคุยกับตัวผู้ต้องหาหาแบบไหน เพราะที่ผู้ต้องหาระบุว่ามีความสัมพันธ์กับลูกนั้น ตนเชื่อว่าไม่เป็นความจริง
ขณะเดียวกันที่ จ.สุพรรณบุรี พื้นที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานในคดีฆ่า น.ส.สุมิตา ซึ่งนายธนากร ผู้ต้องหา เป็นคนเดียวกับที่พ่อผู้ตายสงสัยเนื่องจากอยู่ห้องติดกับลูกสาว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่า โดยลงมือบีบคอ น.ส.สุมิตา จนเสียชีวิต หลังจากในคืนวันที่ 30 ม.ค. ผู้ตายมาหาที่ห้อง เพราะทั้งคู่แอบคบหากันอยู่ ซึ่งไม่มีใครรู้ และเกิดทะเลาะมีปากเสียงกัน โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายต้องการให้นายธนากรพาไปพบและเปิดตัวกับผู้ใหญ่ในฐานะภรรยา แต่ผู้ต้องหาไม่อยากรับเลี้ยง เพราะมีเมียมีลูกอยู่แล้ว และลูกเพิ่งคลอดได้เพียง 4 เดือน จึงทะเลาะกันจนลงมือบีบคอ น.ส.สุมิตา จนเสียชีวิต และนำศพยัดใส่ลงในถังพลาสติก ใช้กางเกงของผู้ตายผูกเท้าไว้เพื่อจะยัดให้เข้าไปในกล่อง ซึ่งตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาจาก สภ.ห้วยผึ้ง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ โดยเดินทางกลับมาถึง สภ.เมืองสุพรรณบุรี เวลา 11.00 น. โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาเมื่อเดินทางมาถึงมีอาการเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ทางตำรวจจึงต้องพาไปพักเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อน โดยได้ซื้อข้าวและน้ำเข้าไปให้กิน และให้ตำรวจดูแลเป็นพิเศษ เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะคิดสั้น จากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาออกมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่ นายประสาน พ่อของ น.ส.สุมิตา หรือน้องเต็น ผู้ตาย ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะคบหามีความสัมพันธ์กับคนร้าย ถ้าแน่จริงให้เปิดโทรศัพท์ดูว่ามีการคุยผ่านแชตผ่านไลน์กับน้องเต็นหรือไม่ และยังสงสัยติดใจว่าลูกจะถูกข่มขืนก่อนจะฆ่าหรือไม่ รวมถึงสงสัยว่าคนร้ายจะมีการเสพยาเสพติดด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า ตนเคยมีเรื่องบาดหมางระหว่างคนงานชุดที่ออกไป แล้วเอาคนร้ายรายนี้มาทำงานแทน แต่เป็นทีมงานเดียวกัน ไม่แน่ใจจะมีความเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงหากรับศพลูกกลับมาแล้วจะนำแหวนทองไปมอบให้ผู้หญิงคนที่ไปพบกล่องแล้วไปตามตนมาดูจนพบศพลูกสาว ตามสัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้ ไม่เช่นนั้นคงต้องออกตามหาลูกจนไม่เป็นอันทำกิน
นางสาวเอ (นามสมมติ) ผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่ามีความสัมพันธ์กับน้องเป็นเรื่องจริง ไม่มีแน่นอน วันนั้นคนที่คุยกับน้องถึงเวลา 00.29 นาที เป็นคนสัญชาติลาว เขาทักแชตคุยกัน น้องเขายังแคปหน้าจอส่งมาให้ดูว่าคุยครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เขาคุยกับแฟนตลอด น้องมีแฟนอยู่แล้ว ส่วนกลางคืนน้องเขาชอบใส่กางเกงขาสั้นและออกไปซื้อของกินข้างนอก แต่ไม่ไปทุกวัน ไม่เชื่อที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เพราะศพพูดไม่ได้ แต่ผู้ต้องหาพูดได้ จะอ้างอะไรก็ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับน้อง อยากถามว่าทำน้องทำไม เพราะน้องเป็นคนดี
ส่วน นายลองเอ ชาวพม่า กล่าวว่า ตนเป็นคนช่วยนายธนากร คนร้าย ยกกล่องดำลงมาจากห้องและนำไปโยนทิ้ง โดยเมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ. เวลาประมาณ 3 ทุ่ม นายธนากรได้เรียกตนบอกให้มาช่วยยกขยะลงไปทิ้งข้างล่าง ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าเป็นขยะ จึงขึ้นไปช่วยยก พอเข้าไปในห้องนายธนากรก็เดินพาไปที่ห้องน้ำซึ่งกล่องดังกล่าววางอยู่ในห้องน้ำ ตอนยกออกมาตนก็สงสัยอยู่ว่าทำไมขยะมันหนักจัง จึงถามไปว่าใช่ขยะจริงๆเหรอ นายธนากรก็บอกว่าขยะจริง จากนั้นก็โยนทิ้งไป แล้วกลับไปนอนตามปกติ จนมาวันนี้จึงรู้ว่าในกล่องมีศพคนตาย ขณะที่เพื่อนคนงานของผู้ต้องหากล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นคนอารมณ์แบบผีเข้าผีออก หลังน้องหายไปก็ได้เข้ามาทำงานแป๊บเดียวแล้วก็หายไป สังเกตเห็นอาการแปลกๆ วิ่งไปวิ่งมา ทำงานด้วยกันทุกวันก็ดูเป็นคนทำงานดี ส่วนเรื่องที่บอกมีสัมพันธ์กับน้องเต็น ไม่เคยรู้เรื่องนี้ และไม่มีใครรู้ เขาไม่เคยเล่าให้ฟัง
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 จะเดินทางมาแถลงข่าวเพื่อสรุปผลการจับกุมผู้ต้องหาฆ่าคนตายอย่างละเอียดอีกครั้ง.
ขอบคุณ ไทยรัฐ/ข่าวสด/ผู้จัดการออนไลน์