รุกหนัก!! เตรียมแจก ATK กว่า 2 ล้านชุดให้กับผู้ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเร่งคัดกรองหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก นำเข้าสู่การรักษาเร็วที่สุด ซึ่งจะเริ่มแจกในวันที่ 16 กันยายน 2564 ผ่าน 2 ช่องทางหลัก แจกในชุมชน และขอรับผ่านแอป “เป๋าตัง” ผ่านหน่วยบริการ โรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยา หากสถานที่ใดเป็นจุดแจก ATK จะมีสัญลักษณ์ที่ว่า จุดแจก ชุดตรวจโควิด ATK ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ขอรับได้ที่นี่ฟรี
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) : พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวความพร้อมการแจกชุดตรวจโควิด-19 Antigen Test Kit (ATK) ให้แก่ชาวกรุงเทพฯ เพื่อใช้ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตนเอง
ทั้งนี้ นพ.จเด็จ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 แม้ว่าปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะมีจำนวนลดลง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลมาตรการหนึ่ง ที่สำคัญคือการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็ว ดังนั้น คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน จึงมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด โดยประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลราชวิถีและองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อแจกให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
ทั้งนี้ ด้วยกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม และเป็นจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด เนื่องจากมีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่นและแออัด จำเป็นต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดโดยเร็ว สปสช. จึงได้จัดสรร ATK จำนวน 2,026,000 ชุด และร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย กระจายแจก ATK ให้กับประชาชนที่มีชื่อตามทะเบียนบ้านในกรุงเทพฯ ผ่านคลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเอกชน คลินิกการแพทย์ และร้านยา ขณะเดียวกันยังได้จัดระบบรองรับการรักษาสำหรับประชาชนที่มีผลตรวจติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระบบการดูแลผู้ติดเชื้อที่บ้านและในชุมชน พร้อมส่งต่อในกรณีที่เจ็บป่วยรุนแรง เพื่อให้เข้าถึงการรักษาได้อย่างครอบคลุม
ด้าน พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยชาวกรุงเทพมหานครทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 นี้ จึงสั่งการให้เร่งความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดการแพร่ระบาดและดูแลประชาชนให้เข้าถึงบริการกรณีโควิด-19 ที่จำเป็นให้ทั่วถึงโดยเร็ว โดยการกระจายชุดตรวจ ATK นี้ นับเป็นอีกครั้งหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง กทม. และ สปสช. ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ด้วย กทม. เป็นพื้นที่พิเศษ ไม่เพียงแต่การแจกชุดตรวจ ATK ผ่านหน่วยบริการเท่านั้น แต่ยังเน้นการกระจาย ATK ไปที่ชุมชนต่างๆ และสถานประกอบการที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ประกอบด้วย กลุ่มตลาดจำนวน 410,000 ชุด กลุ่มร้านเสริมสวยจำนวน 20,000 ชุด กลุ่มร้านนวด สปา จำนวน 56,000 ชุด กลุ่มครู อาจารย์ จำนวน 300,000 ชุด กลุ่มชุมชนอีกจำนวน 420,000 ชุด นอกจากนี้จะแจกในกลุ่มขนส่งสาธารณะจำนวน 440,000 ชุด ด้วยเช่นกัน
คุณสมบัติกลุ่มเป้าหมายรับชุดตรวจ ATK
สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครสามารถรับชุดตรวจโควิด-19 ATK ฟรี ประกอบด้วย
- ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 7 โรค
- ผู้ที่สงสัยว่ามีอาการติดเชื้อ (มีไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจหอบ หายใจลำบาก)
- ผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อโควิด
- ผู้ที่ทำงานประสานงานในชุมชน
ขั้นตอนการแจกชุด ATK มี 2 ช่องทาง คือ
- แจกในพื้นที่หรือชุมชนเสี่ยงและตลาด สถานีขนส่งสาธารณะ ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา ครู อาจารย์ โดยสำนักงานเขตและศูนย์บริการสาธารณสุขพื้นที่ จะประสานอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) สำรวจผู้ที่มีคุณสมบัติและบริหารจัดการการแจกจ่ายชุด ATK พร้อมให้คำแนะนำการใช้และการติดต่อหากผลเป็นบวก และ
- แจกผ่านหน่วยบริการ (โรงพยาบาล คลินิก และร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ) โดยกรณีประชาชนมีสมาร์ทโฟน ให้ประเมินความเสี่ยงผ่านแอป “เป๋าตัง” ตอบคำถาม 3 ข้อ และไปรับชุด ATK ได้ที่คลินิกและร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ โดยสังเกตสัญลักษณ์ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ “จุดแจกชุดตรวจโควิด ATK ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง” กรณีประชาชนไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถไปขอรับได้ที่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการคัดกรองและยืนยันตัวตนให้
ทั้งนี้ ประชาชนจะได้รับคนละ 2 ชุด และต้องตรวจห่างกัน 5 วัน
เตรียม 4 ช่องทาง พร้อมรับผู้ป่วยหากผลตรวจ ATK เป็นบวก
ในส่วนของประชาชนที่มีผลตรวจโควิด-19 ด้วยชุด ATK เป็นบวก สามารถติดต่อเพื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาได้ 4 ช่องทาง ดังนี้
- ติดต่อหน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ อสส. หรือร้านขายยาซึ่งไปรับชุดตรวจ โดยเมื่อไปรับชุดตรวจเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อมูลการปฏิบัติตนให้ทราบ
- ติดต่อสายด่วน สปสช. 1330 กด 14 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- เข้าลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.nhso.go.th และ
- แจ้งช่องทาง Line@nhso
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร, sanook
ขอขอบคุณรูปภาพ : Panuwat Dangsungnoen, ประชาชาติธุรกิจ