กอล์ฟ พิชญะ ออกมาอัพเดทสภาพจิตใจไมค์ พิรัตช์ กรณีดราม่าที่เกิดขึ้น พร้อมพูดถึงความรู้สึกที่มีต่อหลาน
ตอนนี้สภาพจิตใจของไมค์เป็นยังไงบ้าง ?
“ดีขึ้นครับ ไมค์ดีขึ้น ก่อนหน้านี้เขาค่อนข้างเครียดพอสมควร ก็อย่างที่ตามข่าวเลยครับเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา 6 ปี ที่เราไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ว่าตอนนี้ทุกคนเข้าใจไมค์มากขึ้น เขาก็เลยโอเคขึ้น รู้สึกดีขึ้นที่แบบคนเข้าใจเขามากขึ้น”
แต่ในช่วงแรกๆ ดูเราเองก็เดือดพอสมควร ?
“มีบ้างครับ เพราะเขาเป็นน้องเรา เราก็รู้สึกว่าเขาอดทนมาได้นานมากกับการที่เขาเงียบ และสิ่งที่ผมเห็นมันคือความรู้สึกของผมในฐานะคนๆ หนึ่ง และคนๆ หนึ่งที่เป็นลุงของหลาน สิ่งที่ผมเห็นมันจึงเป็นเรื่องของการตั้งคำถามมากกว่าว่า ทำไม ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้”
แสดงว่าเรารับรู้ปัญหาทุกอย่างมาตลอด ?
“รู้ครับ รู้ เพราะจริงๆ แล้วฝ่ายเราก็เลือกที่จะเงียบและไม่พูดมาตลอด”
ทำไมตอนนั้นเราถึงเลือกที่จะเงียบ ?
“ต้องบอกก่อนว่า เอ่อ…สังคมอะไรที่เราพูดเขาก็อาจจะหาว่าเราไม่แมน อะไรที่เป็นความจริงที่ผู้ชายพูดก็จะกลายเป็นว่าผู้ชายไม่แมน ดังนั้นที่ผ่านมาเราก็เลยโอเคเงียบๆ ปล่อยไปละกัน แต่ว่าจริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้อยากให้เรื่องออกมาขนาดนี้นะครับ เพราะว่าทางเราเองก็เลือกที่จะขอสิทธิ์แค่ครึ่งหนึ่งในการดูแล แต่ว่าทุกอย่างมันก็เกิดดราม่าจากการไปจุดประกายว่าอาจจะพรากไปหมดเลย อะไรประมาณนั้นครับ”
การที่เราออกมาโพสต์คือไม่ไหวแล้วใช่ไหม ?
“ก็คือเหมือนว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันไม่หยุด และบางสิ่งบางอย่างที่เราเห็นมันก็เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งเราในฐานะคนที่รักหลานเหมือนกันเราก็เลยรู้สึกว่า มันเกิดแบบนี้ขึ้นได้เหรอ ทำไมถึงต้องทำแบบนี้”
ถามถึงภาพที่น้องเล่นน้ำ ตอนนั้นเราเห็นแล้วรู้สึกยังไง ?
“ถ้าถามตามตรงในความรู้สึกของคนเป็นลุง ก็รู้สึกว่าแบบ เอ่อ…ทุกคนอาจจะพูดว่าการเลี้ยงดูของฝรั่งเขาก็เล่นอย่างนี้แรงๆ ซึ่งผมก็อยู่โรงเรียนอินเตอร์ครับ เพื่อนผมก็ฝรั่ง แต่คราวนี้เราต้องแยกแยะกันก่อนระหว่างการทำโทษที่ถูกต้อง เพราะโอเคเด็กอาจจะมีการว่ายน้ำได้ แต่การกดน้ำกับการว่ายน้ำดำลงไปเองมันไม่ทันตั้งตัว มันคนละแบบกัน เราต้องแยกแยะให้ถูกครับ”
และประเด็นภาพที่ถูกมองว่ามีการใช้เท้าเขี่ยลูกล่ะ ?
“ก็ อันนั้นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทางนั้นดีกว่า แต่ตอนนี้กอล์ฟแค่อยากให้ทุกอย่างโอเค หยุด”
ช่วงหลังมานี้เราได้มีโอกาสติดต่อกับหลานบ้างไหม ?
“น้องไม่มีโทรศัพท์ครับ ก็เลยไม่ได้คุย”
จากทางคนรอบข้างล่ะได้มีข่าวสารเกี่ยวกับหลานมาแจ้งทางเราบ้างไหม ?
“ตอนนี้ก็ได้แต่ติดตามจากการที่แฟนคลับแคปมาหรือไม่ก็แท็กมาให้ดูมากกว่าครับ จะเป็นในลักษณะนั้นมากกว่า”
จากที่ทนายได้แจ้ง เหมือนว่าไมค์กับซาร่าได้มีการพูดคุยกันหลังบ้านบ้างแล้ว ?
“จริงๆ กอล์ฟก็รับรู้เรื่องนี้บ้างครับ แต่ส่วนที่เป็นรายละเอียดดีเทลกอล์ฟไม่ได้รู้เลยว่าเขาคุยอะไรกัน คือถ้าเป็นเรื่องนี้กอล์ฟอยากให้ไมค์เป็นคนชี้แจงเองมากกกว่า เพราะกอล์ฟไม่อยากก้าวก่ายในส่วนของรายละเอียด”
ณ ตอนนี้ เราทราบแล้วใช่ไหมว่าหลานอยู่โรงเรียนอะไร ?
“ทราบจากที่แฟนคลับแท็กมาให้ครับ”
เราไม่ได้เห็นหน้าหลานมานานแค่ไหนแล้ว ?
“หลักเดือนครับ น่าจะหลักเดือน น่าจะมากกว่าไมค์ครับ”
จากที่เคยเจอและเคยเล่นด้วยตลอด แต่ตอนนี้ไม่ได้เจอเลยเรารู้สึกยังไงบ้าง ?
“คิดถึงครับ จริงๆ แล้วอีกอย่างหนึ่งการที่กอล์ฟถ่ายคลิปยูทูบเอาไว้ ก็เป็นเพราะกอล์ฟอยากจะเก็บโมเมนต์ให้เขาดูนี่ล่ะครับ ว่าถ้าเขาโตขึ้นเขาจะได้เห็นว่าเราได้ทำวีรกรรมอะไรไว้บ้าง อยากให้เขาเห็นว่ามันเป็นคลิปตลกๆ เป็นความทรงจำของเขาครับ”
ในวันที่ไมค์อ่อนแอเราให้กำลังใจเขาอย่างไรบ้าง ?
“เขาไม่น่าจะถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้านะครับ แต่เขามีภาวะเครียดมาก เพราะทุกครั้งที่กอล์ฟเจอเขา หน้าเขาจะดูเครียด จนบางครั้งเองกอล์ฟยังไม่กล้าเข้าไปถามเขาเลยว่าเขาโอเคหรือเปล่า โดยเฉพาะช่วงเดือนที่ผ่านมา”
เขาเคยร้องไห้เราเห็นบ้างไหม ?
“เรื่องนี้กอล์ฟขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวดีกว่าครับ แต่ว่าตอนนี้เขาแข็งแรงขึ้นเยอะแล้ว”
ยังมีภาวะเครียดให้เห็นอีกหรือเปล่า ?
“เขาก็เครียดครับ แต่ตอนนี้เขาดีขึ้น อย่างที่กอล์ฟบอกคือดีขึ้นเยอะเลย แต่หลังจากนี้ก็รู้สึกว่าทางพวกเราเองและตัวไมค์เอง ก็อยากให้เป็นเรื่องของศาลมากกว่า”
ตอนนี้สามารถสรุปได้ไหมว่าเขาไม่ได้มีภาวะเสี่ยงอะไรแบบนั้นแล้ว ?
“ไม่ภาวะไปถึงขั้นนั้นครับ ตอนนี้เขาดีขึ้น ดีขึ้น แต่ว่าคลิปที่กอล์ฟลงและเห็นว่าเราเต้นกัน อันนั้นไม่ใช่คลิปล่าสุดนะครับ ถ่ายไว้เป็นเดือนๆ แล้ว”
อาการเครียดของเขามันถึงขั้นต้องไปปรึกษาคุณหมอเลยไหม ?
“ยังครับ ยังครับ เราแค่ปรึกษากันเองภายในครอบครัวก่อนครับ”
มีอะไรอยากจะฝากถึงคนที่เอาลูกเอาหลานมาโพสต์บ้างไหม ?
“ไม่ค่อยอยากฝากอะไรครับ แต่แค่รู้สึกว่าอยากให้มองหลานเป็นหลัก และก็อย่างที่กอล์ฟเคยพูดไปทุกครั้ง ชีวิตคนเราไม่ใช่เกมส์ เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามที่พ่อกับแม่จะมีปัญหาอะไรกัน เราอย่าให้ลูกมารับรู้ในเรื่องที่เด็กยังไม่ควรรู้ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่จะเคลียร์กันหลังบ้าน อย่ามาทำเป็นเรื่องโซเชียลมีเดียนั่นนู่นนี่กันเลยครับ”
ขอบคุณ Sanook.com