ข้าวโอ๊ต ยืดอกรับ เป็นบอยแบนด์ติดโควิดจากมะตูม

พิธีกร :  แต่เป็นวันที่ 8 มกราคมใช่มั้ย?

ข้าวโอ๊ต : ใช่ครับ ถูกต้องครับ 

พิธีกร : วันนั้นคุณไปหามะตูมที่คอนโดเขา ถูกต้องมั้ย? 

ข้าวโอ๊ต : ไปหาเขาที่คอนโดครับ 

พิธีกร : วันที่ 9 มกราคม ที่เขาบอกว่าเป็นการจัดเซอร์ไพรส์เบิร์ธเดย์ปาร์ตี้น้องไปติดวันนั้นหรือเปล่า? 

พิธีกร : คนนั้นชื่อปีโป้ใช่มั้ย?

ข้าวโอ๊ต : ใช่ครับ ไม่ใช่ดาราครับ 

พิธีกร : ปีโป้คนนี้ไปติดที่เชียงใหม่ถูกต้องมั้ย? 

ข้าวโอ๊ต : โอ๊ตไม่ได้ถามปีโป้ว่าติดมาจากไหน แต่วันที่ 9 โอ๊ตเจอแต่ปีโป้ ปีโป้ไปกินข้าวบนดาดฟ้ามาผมคิดว่าน่าจะติดมาจากปีโป้ครับ 

พิธีกร : สรุปวันที่ 9 นอนอยู่ที่โรงแรมบันยันทรี ถูกต้องมั้ย? 

ข้าวโอ๊ต : วันที่ 9 ผมไม่ได้นอนนะครับ วันที่ 9 ผมไม่ได้เจอครับ วันที่ 9 โอ๊ตไปแล้ว โทรถามเพื่อนว่าอยู่ไหน เพื่อนบอกกินข้าวอยู่วันเกิดพี่มะตูม มากินข้าวมั้ย ผมบอกว่าเดี๋ยวไป คือโอ๊ตเป็นคนลีลา ทำอะไรช้า พอไปถึงมันดึกแล้ว เหมือนงานเขาเลิกแล้ว ก็เลยไปหาปีโป้ที่ห้องครับ ที่โรงแรมบันยันทรี ไม่ได้เจอใครเลย 

พิธีกร : คิดว่าน่าจะติดมาจากปีโป้? 

ข้าวโอ๊ต : ใช่ครับ 

พิธีกร : ได้รับเชื้อวันที่ 9 วันที่ 10-11 ไปไหนมา?

ข้าวโอ๊ต : วันที่ 10-11 ไม่ได้ไปไหนเลย เพราะว่ามันโควิด และผมก็ไม่มีงานเลย (อยู่ที่บ้าน) วันที่ 11 ผมอยู่แต่บ้าน อยู่แต่ห้อง ปกติผมไม่ค่อยออกไปไหนอยู่แล้ว 

พิธีกร : ได้ออกไปไหนกันอีก เพราะไทม์ไลน์มันหายไป? 

ข้าวโอ๊ต :  ที่เขาบอกว่า วันที่ 14-20 ที่ว่าผมปกปิดใช่มั้ยครับ คือพอวันที่ 12-13 ผมเหมือนจะป่วย แต่ผมก็ไม่อยากคิดไปเอง ว่าป่วยเป็นโควิดหรือว่าภูมิแพ้ ก็กินยาแก้แพ้ไป แต่พอวันที่ 13 อาการมันเริ่มตัวร้อนขึ้น หายใจไม่ค่อยออก เริ่มไม่รับรส ไม่ได้กลิ่น ประมาณวันที่ 13 ครับ ก็พยายามกินยา 14-15 ก็เริ่มดีขึ้น พอมาวันที่พี่ตูมเขาแถลง วันนั้นผมก็กลับมาเป็นปกติ ไม่มีอาการป่วย แต่ว่าพอมาวันที่ 20 ผมเห็นข่าวพี่มะตูม เพื่อความชัวร์ก็เลยมาตรวจดีกว่าระยะที่ผมหายไป บอกว่าผมปกปิด ผมไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดหรืออะไรเลย ผมก็พยายามรักษาตัวเองให้มันดีขึ้น สรุปเราเป็นหรือเราไม่เป็น ก็พยายามกินยาพารามันก็ดีขึ้นๆ ครับ จนผมคิดว่าผมไม่ได้เป็น 

พิธีกร : คำถามที่สังคมเขาถามตอนนี้ทำไมรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่สัมผัสกับคนที่ติดโควิด ตั้งแต่วันที่ 20 ทำไมไม่แสดงตัวตนละว่าหนูก็เป็นคนที่อยู่ในปาร์ตี้นั้นด้วย? 

ข้าวโอ๊ต : คือพอโอ๊ตเห็นข่าวทุกๆ อย่าง มันมีข่าวไทม์ไลน์ที่มันจริง กับไทม์ไลน์ที่ไม่จริง กับที่เราแจ้งไปแล้ว ความจริงกับที่เราแจ้งไป กับที่ออกข่าวมันไม่ตรงกันครับพี่มดดำ พอมันไม่ตรงกันก็มีคนโทรมาถามโอ๊ตเยอะมาก สรุปเราเชื่อใจใครได้บ้าง พอมีคนถามผม ผมก็บอกไทม์ไลน์ความจริงไปหมด ที่ผมป่วยผมไม่ไหวจริงๆ เลยไม่ออกไปไหน อยู่ที่ห้องพัก และหลังจากที่พี่มะตูมออกมาโพสต์ วันที่ 21 มกราคม หมอให้กักตัว ผมก็อยู่โรงพยาบาลจนถึงวันนี้ วันที่ผมไปตรวจ หมอเขาให้อยู่โรงพยาบาลเลย เพราะผมสุ่มเสี่ยง เขาก็แจ้งว่าจะขอดูอาการว่าจะเป็น หรือจะหาย เพื่อความชัดเจน ผมไม่ได้จะปกปิดหรือหนี แต่ผมรอความชัดเจน จะได้ออกมาชี้แจงให้ถูกต้อง มีหลายๆ คนโทรมา คือที่ออกข่าวมันไม่ถูกต้อง ผมเสียใจกับสิ่งที่มันออกไป

พิธีกร : อยากบอกกับสังคมว่ายังไง?

ข้าวโอ๊ต : ผมขอโทษทุกๆ คน ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิด ขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวงการ ขอโทษพี่มะตูม ขอโทษพี่หนุ่ม (กรรชัย) ด้วยครับ ผมเห็นที่พี่หนุ่มโพสต์แล้ว ผมไม่ได้จะปกปิดหรือหนี แต่ผมรอให้มันชัดเจนกว่านี้ ผมเคยให้สัมภาษณ์ พูดไปแล้ว แต่พอผมดูในทีวีทำไมเป็นว่าผมไปอยู่โรงแรมตั้งแต่วันที่ 8-9 มกราคม ทุกคนที่รู้จักผมดี จะรู้ว่าถ้าผมทำอะไร ผมยอมรับอยู่แล้วครับ ผมเครียดมากๆ ระหว่างที่กักตัวมันไม่ได้มีอาการป่วย หมอให้อยู่ในห้องเพื่อดูอาการว่าจะเป็นหรือจะหาย ผลออกมาเมื่อช่วงเย็นวันนี้ โทรไปถามทางคุณหมอ อยากออกมาชี้แจง คุณหมอแจ้งมาว่า ผมติดเชื้อโควิด แต่ทางคุณหมอขอดูอาการอีกทีวันที่ 31 มกราคม ว่ากำลังจะหายหรือกำลังจะเพิ่งเป็น ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลมา ไม่มีไข้เลย เพิ่งมามีไข้เมื่อช่วงเย็น ยอมรับว่าผมอ่านทุกคอมเมนต์ ผมรับฟังที่ทุกคนติง ผมอยากชี้แจงให้เห็นจริงๆ ว่า ไทม์ไลน์อันนั้น กับอันนี้ มันไม่เหมือนที่ผมให้ข้อมูลไป ผมก็เลยยังไม่ได้คุยกับใคร ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เข้าใจผิด ทำให้มันวุ่นวาย ผมไม่ได้หนี ผมไม่ได้ต้องการจะปกปิดอะไร ผมอยากให้ข้อมูลจากผมเป็นข้อมูลจริงๆ ว่าสรุปผมเป็นอะไร ทุกคนอาจจะคิดว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สุดท้ายที่ผมโพสต์(ร้องไห้) สุดท้ายแล้วผมอยากให้ทุกคนรู้จากปากผมจริงๆ ไม่ใช่จากที่ทุกคนโพสต์ เพราะผมเห็นคนโพสต์เยอะมากๆ แล้วมัน…มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยครับพี่ ผมเลยอยากให้ฟังจากปากผมมากกว่า

พิธีกร : คิดว่าคนที่อยู่รอบตัวเรา คนที่มีความเสี่ยงที่กักตัวแล้วยังไม่ได้ไปตรวจยังเหลืออีกเยอะไหม?

ข้าวโอ๊ต : คนรอบตัวผมไปตรวจกันหมดแล้ว พี่ชายผม แฟนผมก็ไปตรวจมาหมดแล้ว ผลออกมาว่าไม่ติดเชื้อทั้งหมดเลย (ร้องไห้) ผมอยากพูดความจริง ผมไม่ได้จะหนี ผมอยากออกมาพูดความจริงมากๆ เลย แต่เพียงแค่ว่าผมงงว่าสิ่งที่ออกไปมันไม่เหมือนกับที่เราให้ข้อมูลเขาไป พอมันเป็นอย่างนั้นมันทำให้ผมไม่กล้าที่จะคุยกับใคร ผมไม่ได้จะหนีแต่ผมไม่รู้จริงๆว่าตั้งแต่ที่ผมเข้าโรงพยาบาลจนถึงวันนี้อาการผมเป็นยังไง เพราะผมแข็งแรงปกติ ผมเอกซเรย์ปอดมันก็ 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างมันปกติมากๆ เลยครับ จนตอนเย็นวันนี้ผมเพิ่งจะมีไข้ อุณหภูมิร่างกายมันสูงขึ้น เขาก็เลยให้ยามากินวันนี้เป็นวันแรก