หนุ่ม กรรชัย กักตัวด่วน หลังเจอสองเด้งในวันเดียว

หนุ่ม กรรชัย ประกาศกักตัวงดจัดรายการต่างๆ ทุกรายการ หลังใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19  วันเดียว 2 เคส ทั้งรอบเช้า และเย็น

 

 

 

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 12 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา หนุ่ม กรรชัย ได้ทำการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับบอกว่าต้องขอพักจากหน้าจอเพื่อกักตัวสัก 10 วัน เพื่อดูอาการ เนื่องจากได้ไปพบผู้กำกับหนังโฆษณาที่ตนเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่ห้องอัดเสียงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 ก.ค.) และเพิ่งทราบผลว่าเป็นโควิดเมื่อช่วงเย็นวันนี้ ตนเลยรีบไลฟ์สดชี้แจงไว้ก่อน

 

 

“คือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผมไปลงเสียงที่สตูดิโอแห่งหนึ่งที่ทาวน์อินทาวน์ ผมไปลงเสียงให้กับหนังโฆษณาที่ผมเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ และวันนั้นบังเอิญผมได้ไปเจอกับผู้กำกับหนังโฆษณาเรื่องนี้ และปรากฏว่าผู้กำกับท่านนั้นเพิ่งแจ้งผมมาเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาว่าตัวเขาได้รับเชื้อโควิด เพราะฉะนั้นผมเองก็อาจจะเป็นผู้เสี่ยงสูงเหมือนกัน ก็อาจจะต้องสังเกตอาการ แต่วันนี้ผมได้มีการเช็dปกติของผมอยู่แล้ว โดยใช้ชุดเทสในการสว็อปจมูก ก็คือผมไม่พบเชื้อนะครับ แต่ด้วยมาตรการก็มีความจำเป็นต้องกักตัวสังเกตอาการ



วันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นเหตุการณ์ที่ซับซ้อนมาก คือวันนั้นดอกแรกเลยที่ผมเจอคือพระมหาสมปองท่านมาถึงที่ช่อง 3 ตัวท่านก็จำเป็นต้องขึ้นมาจัดรายการที่บนตึกกับผม คือจะถ่ายรายการโหนกระแส ปรากฏว่าวันนั้นผมก็มีการตรวจอยู่แล้ว ตรวจแบบนี้มา 3 เดือนกว่าแล้ว ใครจะขึ้นตึกไปคุยกับผมใครจะเข้ารายการแขกทุกคนที่มาต้องใช้ชุดตรวจสว็อปที่จมูกและจะรอผลได้ประมาณ 7-10 นาที วันนั้นพระมหาสมปองมาพร้อมกับผู้ติดตามอีก 2 คน พอเช็กพระมหาสมปองครั้งแรกไม่เจอ ผลเป็นลบ แต่คนขับรถและคนติดตามปรากฏว่าขึ้นสองขีด คือได้รับเชื้อเพราะฉะนั้นวันนั้นพระมหาสมปองถือเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูง ผมเลยนิมนต์ท่านกลับไป แต่ผมไม่ได้เจอท่านนะครับ คือท่านมาตรวจก่อนขึ้นตึก พอผลออกก็เลยเชิญทั้ง 3 คนกลับไป

 



หลังจากนั้นท่านก็มีการไปตรวจอีกทีปรากฏว่าติดทั้ง 3 คน จากนั้นผมเองก็ได้เดินทางไปห้องบันทึกเสียงที่ทาวน์อินทาวน์ และในห้องบันทึกเสียงจะแบ่งเป็นสองฝั่ง ผมก็อยู่ในห้องเก็บเสียงและผมต้องถอดหน้ากาก ซึ่งในนั้นผมอยู่คนเดียวนะ และลงเสียง พอเสร็จก็ใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น เป็นหน้ากากปกติ 1 ชั้นและหน้ากากผ้าทับอีก 1 ชั้น จากนั้นถึงเดินออกจากห้องบันทึกเสียง แล้วก็เข้าไปห้องที่มีคนอยู่ประมาณ 10 กว่าคน และหนึ่งในนั้นก็มีผู้กำกับหนังโฆษณาตัวนี้นั่งอยู่ด้วย ในนั้นทุกคนใส่หน้ากากอนามัยหมด ผมก็นั่งคุยถึงเรื่องพระมหาสมปองว่าวันนี้ผมไปเจออะไรมาบ้าง ผมอยู่ในห้องนั้นประมาณ 10-15 นาทีไม่เกินนี้แล้วผมก็กลับบ้าน



พอวันนี้เมื่อประมาณ 4-5 โมงเย็น ผมก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่าผู้กำกับท่านนั้นหลังจากที่เจอผมเมื่อวันศุกร์คืนนั้นมีโทรศัพท์หาเขาบอกว่าเมื่อ 5 วัน ก่อนในสถานที่ที่เขาไปทำงานมีคนติดโควิด และเขาต้องมีการลิงก์กันอยู่ตลอดเวลากับผู้กำกับท่านนี้ผู้กำกับท่านนี้ ก็เลยไปตรวจปรากฏว่าได้รับผลวันนี้ว่าเขาได้รับเชื้อโควิดมา เขาก็เลยโทรมาแจ้งผมวันนี้”



บอกตนอาจจะไม่ติด แต่ก็ขอทำตามมาตรการกักตัวไว้ก่อน
“วันนี้ผมก็ได้มีการปรึกษาอาจารย์หมอหลายๆ ท่าน แล้วท่านก็บอกว่าเปอร์เซ็นต์ในการติดอาจจะน้อย เพราะผมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ตัวผู้กำกับก็ใส่ และผมเจอเขาแป๊บเดียว แต่ก็เจอ ซึ่งตามกฎกติกาตามมาตรการต่างๆ ผมเลยจำเป็นที่จะต้องพักงานในการที่ต้องสังเกตอาการตัวเองว่าได้รับเชื้อหรือเปล่า วันนี้ผมได้มีการสว็อปไปครั้งนึงแล้วก็ไม่พบเชื้อ จากนั้นตอนเย็นถึงเพิ่งทราบข่าวผมก็จะต้องนับย้อนหลังกลับไปคือเจอเขาวันที่ 9 ก.ค.วันที่ 14 ผมจะไปตรวจอีกครั้งว่าได้รับเชื้อหรือเปล่า ก็หวังในใจว่าจะไม่ได้รับเชื้อ เพราะผมเองก็ดูแลตัวเองที่สุดแล้ว ทั้งใส่หน้ากากอนามัยอะไรต่างๆ



วันนี้ก็เลยมาเรียนแจ้งว่าผมเองอาจจะขออนุญาตหายจากหน้าจอไป ทั้งรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายการโหนกระแส และรายการข่าวใส่ไข่ ซึ่งผมยังไม่ได้แจ้งข่าวใส่ไข่เลย ผมอาจจะหายไปประมาณถ้านับจากวันนั้นก็ตกวันที่ 22 ก.ค. น่าจะเป็นวันที่ผมออกจากการกักตัว ก็น่าจะได้เจอกันอาจจะเป็นวันที่ 23 ก.ค.อีกที หลังจากนี้ผมจะพยายามเช็กตัวเองเรื่อยๆส่วนคนที่ทำงานกับผมถือเป็นวงสอง แต่ผมยังไม่ได้รับเชื้อนะ วงสองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกักตัวนะครับ ยังทำงานได้ปกติจนกว่าจะได้รู้ว่าผมรับเชื้อหรือเปล่า ถ้าผมรับเชื้อวงสองก็ต้องกักตัว ก็เลยมาแจ้งให้ฟังว่าไม่ต้องตกใจ ถ้าผมไม่ได้ไปทำรายการต่างๆ ก็เลยมาแจ้งให้ทุกคนได้รับรู้ด้วย”



เผยไม่คิดโทษใคร และขอให้ติดตามรายการต่อไปแม้ช่วงนี้ตนจะไม่ได้ทำก็ตาม
“ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ตอนแรกก็คิดว่าจะไปทำงานต่อดีไหม แต่ถ้าไปก็คงไม่ค่อยยุติธรรมกับคนอื่นๆ ที่ผมเคยนำเสนอข่าวไปเหมือนกัน ว่าทำไมคุณไปเจอคนที่เป็นโควิด คุณเป็นผู้เสี่ยงสูง แล้วทำไมไม่กักตัว แต่ถ้าเป็นผมเองแล้วมานั่งปกปิดตัวเอง ผมรู้สึกว่าคงไม่ใช่เรื่อง ผมก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยตัวผมเหมือนกัน อย่างน้อยผมเชื่อว่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีได้เหมือนกัน สำหรับคนที่ไปเจอคนที่เป็นโควิดแล้วจะไม่ต้องปิดบังไทม์ไลน์ตัวเอง และยังไปทำงานไปนั่นนี่แล้วทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน ผมถึงมาแจ้ง


ทั้งหมดที่เกิดขึ้นผมไม่ได้โทษใครนะครับ เขาก็ขอโทษผมนะ ผมก็เข้าใจในบริบทที่เกิดขึ้น และผมเองพยายามเซฟตัวเองอย่างมากที่สุดแล้ว ที่ผ่านมาก็พยายามตรวจคนที่จะเจอผม แต่สุดท้ายแล้วดวงคนมันจะต้องเจอมันก็เจอ ขนาดพ้นจากพระมหาสมปองไปแล้วนะ ก็ยังไปเจอคนนี้ดูสิ ในวันเดียวกัน ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เป็นไปตามกฎกติกาผมก็ต้องกักตัว



จากนี้ผมก็จะแจ้งไปทางข่าวใส่ไข่ ส่วนโหนกระแสผมก็บอกทางพี่หมวย (อริสรา กำธรเจริญ) แล้วก็จะให้พี่หมวยทำแทนก็น่าจะ 10 วัน ก็ฝากพี่หมวยและฝากรายการโหนกระแสด้วยอยากให้ติดตามรายการกันต่อไปนะครับ อย่าไปคิดว่าไม่เอาจะรอผมนะ ผมอยากให้ติดตาม เพราะไม่ว่าใครจะทำก็เป็นกระบอกเสียงให้ทุกคนได้อยู่ดี ฝากพี่หมวยด้วยนะ ตอนนี้ทางช่องก็ได้มีการพิจารณาแล้วว่าอาจจะให้มีการอ่านข่าวที่บ้านหรือสัมภาษณ์แขกที่บ้านด้วยซ้ำไป



ถามว่าไปต้องเจอคนที่ติดโควิดตกใจไหม โคตรตกใจเลย (หัวเราะ) เพราะผมดูแลตัวเองมากๆ ทุกคนจะขึ้นรายการก็ต้องตรวจก่อน ไม่งั้นไม่ให้ขึ้น ไม่ให้เจอ แต่กลับไปเจอจากข้างนอก คิดดูสิ (หัวเราะ) แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราอยู่ในสถานการณ์ที่ทุกคนก็ลำบากเหมือนกัน”

 

 

 

 

ขอบคุณ ข่าวสด/sanook.com/มติชน/ผู้จัดการออนไลน์