ไอซ์ รัชนก โพสต์ถูก ต้อม ยุทธเลิศ ตบหน้า-โดดถีบ หลังนัดเคลียร์ใจบนเรือที่ท่าเรือแถวคลองสาน ด้านต้อม ยุทธเลิศ ผู้กำกับชื่อดัง ยอมรับมีการทะเลาะวิวาทกับ ไอซ์ รักชนก จริง แต่ไม่เรียกว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย อ้างถ้าตบหน้า 2 ครั้ง ต้องมีแผลให้เห็นแล้ว ด้านตำรวจ เตรียมออกหมายเรียก ต้อม ยุทธเลิศ รับทราบข้อกล่าวหา
วันที่ 22 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไอซ์ รักชนก ศรีนอก กลุ่มพลังคลับเฮาส์ แม่ค้าออนไลน์ ผู้โด่งดังจากการแสดงเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในสภาโจ๊ก และถูก บก.ปอท. แจ้งข้อหามาตรา 112 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเล่าถึงเหตุการณ์นัดเคลียร์ใจกับ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับชื่อดัง ถึงปัญหาที่เคยเกิดขึ้น โดยระบุว่า “พยายามรวบรวมสติ (ตอนนี้แพนิค) เพื่อพิมพ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้สั้นๆ
วันนี้ประมาณ 21:30 น ต้อม ยุทธเลิศ เรียกเราไปคุยที่ชั้นบนของเรือที่ท่าเรือแถวคลองสาน เนื่องจากเคยมีปัญหากัน เรื่องคือต้อมตั้งห้องกล่าวหาว่ามีคนโกงเงินม็อบโดยไม่มีหลักฐาน วันถัดมาเราจึงตั้งรูปดิสเพลย์ถามว่าต้อมยุทธเลิศขอโทษคนนั้นหรือยัง ความตั้งใจของเราต้องการจะเคลียร์ทำความเข้าใจกันและขอโทษในเรื่องนี้
เราขึ้นมาด้านบนของเรือ เรานั่งที่โต๊ะ ต้อมยืนที่หัวเรือ เราพูดติดตลกว่าบรรยากาศเหมือนขึ้นมาคุยกับมาเฟียเลย ซึ่งมันเหมือนจริง ต้องมีคนอนุญาตให้ขึ้น และต้องมีคนพาตัวเราขึ้นมา ต้องสั่งให้นั่งแล้วเค้ายืนคุมหัวโต๊ะ แล้วต้อมก็พูดว่าก็มึงกำลังเล่นกับมาเฟียอยู่ไง ตลอดเวลาขึ้นมึงกูและใช้อารมณ์กับเราตลอด
คุยไปได้สักพัก ต้อมเดินมาตบหน้าเรา 2 ครั้ง เราทั้งตกใจและโมโหเลยลุกขึ้นคว้าของอะไรสักอย่างที่อยู่บนโต๊ะไว้เพื่อจะป้องกันตัว ทุกคนบนนั้นพยายามห้ามเรา ซึ่งเรางงว่าห้ามเราทำไม เราเป็นคนโดนตบหน้า แต่ต้อมยืนพูดจาท้าทายยืนด่าเราต่อ ซึ่งตอนนั้นตัวเราจากที่อยากขึ้นมาขอโทษ ก็คือกูโคตรผิดหวัง กูมาทำเหี้ยไรตรงนี้ ตกใจ เสียใจ โมโห โกรธจนตัวสั่น กลัวจะโดนทำร้ายร่างกายเพิ่มอีกด้วยสถานการณ์ก็ชุลมุน จากนั้นมีผู้ชายอีกคนอยู่ดีดีก็อารมณ์ขึ้นแล้วตะโกนชี้หน้าด่าเรา มึงด่าพี่กู แล้วก็อะไรอีกมากมาย ซึ่งด่ามา กูก็ด่าคืน
พอทุกคนแยก เราเดินออกมาเพื่อจะทวงถามคำขอโทษที่ตบหน้าเรา และอยากรู้ว่าตบเราทำไม แล้วก็โดนต้อมโดดถีบที่ท้องอีก 1 ครั้ง สถานการณ์ชุลมุน จากนั้นไม่นานก็มีคนมากล่าวหาเราว่าต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ สร้างสถานการณ์เพื่อที่จะดิสเครดิตพวกเค้า สร้างภาพให้ตัวเองดูดี คือไม่เข้าใจ ใครจะสร้างสถานการณ์ให้ตัวเองโดนทำร้ายร่างกายหรอ แล้วคนตรงนั้น มีเพื่อนเราที่ขึ้นไปเป็นเพื่อนแค่ 2 คน นอกนั้นเป็นเพื่อนต้อมทั้งหมด ถ้าเราไม่บริสุทธิ์ใจจะไปคุย จะเอาตัวเข้าไปอยู่ในความสุ่มเสี่ยงเพื่ออะไร
เราไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อนนะ เราไม่อยากพาดพิงใครด้วย รู้ว่าบางคนก็รู้จักทั้งสองฝ่ายและไม่อยากผิดใจ เราเข้าใจทุกอย่าง แล้วเราก็รู้ว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนต้อมตบหน้าเรา 90% คือเพื่อนต้อม ถ้าขึ้นศาล ยังไงก็คงไม่ยินดีจะมาเป็นพยานให้เราหรอก ถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนที่ถูกกระทำก็ตาม แต่ถึงยังไงเราจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด คนทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ
ถ้าเราสภาพจิตใจพร้อมกว่านี้ จะมาเล่าเรื่องราวโดยละเอียด ถ้าคนที่อยู่ในเหตุการณ์หรือไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ต้องการจะบิดเบือนสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น ก็ลองดู เราพร้อมจะเปิดเผยทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีภาพและเสียง ตอนนี้แจ้งความเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดเมื่อช่วงกลางวันของวันนี้ (22 พ.ย.) สถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ “ต้อม ยุทธเลิศ” ซึ่งผู้กำกับชื่อดังกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งกันของคนที่ไม่ลงรอยกัน ยิ่ง “คนเมาสองคน” มาทะเลาะกันก็ต้องยอมรับว่า “เบรกไม่อยู่” และที่สำคัญตอนเกิดเหตุไม่ได้ทำร้ายกันแค่สองคน แต่คนอยู่กันเต็มเรือก็มีการเข้าห้ามปรามกลายเป็นความชุลมุน ตอนที่เกิดเหตุวุ่นวายมาก ส่วนที่คู่กรณีออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวในโลกออนไลน์ก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นที่คู่กรณีไปแจ้งความนั้น ต้อม ยุทธเลิศ ระบุว่า ก็ว่ากันไป ผิดว่าไปตามผิด ที่บอกว่าถูกตนทำร้ายร่างกาย ตนก็อยากจะถามว่ามีแผลหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้คู่กรณีพยายามใส่ร้ายใส่ความตนมาตลอด โดยมีการกดดันเพื่อให้ไปขอโทษ “แอมมี่ The Bottom Blues” และ “ทราย เจริญปุระ” ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการทะเลาะกันต่อในแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ แต่โดยส่วนตัวตนเชื่อว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด จึงถามกลับไปว่าทำไมต้องขอโทษ ที่สำคัญทั้งแอมมี่และทรายเป็นน้องที่ตนรู้จักมานาน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวเลย หลังจากนั้นตนก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีเรื่อยมา
นอกจากนี้ ผู้กำกับที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากวีรกรรมที่เกิดขึ้น เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในวันเกิดเหตุตนอยู่บนเรืออยู่แล้ว เพราะตนได้รับเชิญจากเจ้าของงาน “ส่องทวิตยามเช้า” ซึ่งคู่กรณีไม่ได้ถูกเชิญแต่กลับขึ้นมาบนเรือได้ ตนจึงถามคนจัดงานว่าใครเชิญ ต้องยอมรับว่าตนไม่อยากเจอคู่กรณี อยากให้ทุกคนนึกภาพของคนสองคนที่ไม่ถูกกันเมื่อเจอหน้ากันในสภาพที่มีอาการมึนเมาจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายก็เป็นเรื่องจนได้
อย่างไรก็ตาม หากตำรวจจะส่งหมายเรียกมาเพื่อไปให้ปากคำ ตนก็พร้อมจะเดินทางไปพบและยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการทะเลาะวิวาทไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกาย
ขอบคุณ ข่าวสด/sanook.com/กรุงเทพธุรกิจ